สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5314/2539

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5314/2539

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1400

ที่ดินของจำเลยมีที่ดินของโจทก์เป็นทางภารจำยอมอยู่แล้วแม้จะมีทางออกทางอื่นโดยมีถนนสาธารณะตัดผ่านที่ดินของจำเลยก็หาทำให้ทางภารจำยอมในที่ดินของโจทก์ที่มีอยู่แล้วสิ้นไปไม่กรณียังมิใช่เป็นเรื่องภารจำยอมหมดประโยชน์แก่สามยทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1400

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 133383 พ้นจากภารจำยอมทั้งหมด ให้จำเลยไปให้ความยินยอมเพื่อโจทก์จะได้ดำเนินการจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดิน มิฉะนั้นให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา

จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้ทอดทิ้งหรือมิได้ใช้ทางภารจำยอมเกินกว่า 10 ปี และแม้ที่ดินของจำเลยจะมีถนนประชาอุทิศตัดผ่าน แต่ถนนดังกล่าวเปิดให้ใช้ได้ไม่ถึง 10 ปี ส่วนทางภารจำยอมซึ่งมีราษฎรปลูกสร้างบ้านเรือนนั้นยังสามารถใช้เป็นทางเข้าออกได้และจำเลยยังคงใช้ทางภารจำยอมเข้าออกเสมอขอให้ยกฟ้อง

ระหว่างพิจารณา โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เรียกบริษัทมิลเลียน แนร์ บิลดิ้งจำกัด เข้าเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต

จำเลยร่วมให้การว่า จำเลยร่วมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 โดยซื้อมาจากจำเลยโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานโดยสุจริตแล้ว จำเลยร่วมยังคงใช้ทางภารจำยอมเข้าออกเรื่อยมาเนื่องจากถนนประชาอุทิศเปิดใช้ยังไม่ถึง 10 ปี และมิได้ตัดผ่านที่ดินส่วนของจำเลยร่วมขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่19 ตุลาคม 2514 นายมล ยอดสุวรรณได้จดทะเบียนให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 1871 เลขที่ดิน 2534 ตำบลห้วยขวาง (สามเสนนอกฝั่งเหนือ)อำเภอห้วยขวาง (บางซื่อ) กรุงเทพมหานคร ทั้งแปลงของโจทก์ตกเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 ตำบลห้วยขวาง(สามเสนนอกฝั่งเหนือ) อำเภอห้วยขวาง (บางซื่อ) กรุงเทพมหานครทั้งแปลงของจำเลย ต่อมาในปี 2530 โจทก์ได้แบ่งแยกที่ดินของโจทก์โฉนดเลขที่ 1871 ดังกล่าวออกเป็น 5 แปลง คือที่ดินโฉนดเลขที่ 1871, 133383, 133382, 133381 และ 133380 และปี 2534จำเลยได้แบ่งแยกที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 ของจำเลยออกเป็น 6 แปลงคือที่ดินโฉนดเลขที่ 1870, 139837, 139838, 139839, 139840 และ139841 แล้วนายมลได้จดทะเบียนภารจำยอมใหม่ให้เฉพาะที่ดินที่แบ่งแยกแล้วคือที่ดินโฉนดเลขที่ 133383 ของโจทก์ตกเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 ของจำเลย โดยยกเลิกภารจำยอมในที่ดินส่วนอื่นที่แบ่งแยกออกไปแล้วทั้งหมด ต่อมาเมื่อปี 2534 จำเลยขายที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 ให้แก่บริษัทมิลเลียนแนร์ บิลดิ้ง จำกัด จำเลยร่วม

คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยต่อไปตามฎีกาของโจทก์ว่าทางภารจำยอมในที่ดินโฉนดเลขที่ 133383 ของโจทก์หมดประโยชน์แก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 1870 ของจำเลยซึ่งเป็นสามยทรัพย์หรือไม่เห็นว่า ที่ดินของจำเลยมีที่ดินของโจทก์เป็นทางภารจำยอมอยู่แล้วแม้จะมีทางออกทางอื่นโดยมีถนนประชาอุทิศตัดผ่านที่ดินของจำเลยก็หาทำให้ทางภารจำยอมในที่ดินของโจทก์ที่มีอยู่แล้วสิ้นไปไม่เพราะกรณียังมิใช่เป็นเรื่องภารจำยอมหมดประโยชน์แก่สามยทรัพย์ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1400จึงฟังไม่ได้ว่าภารจำยอมในที่ดินโฉนดเลขที่ 133383 ซึ่งเป็นที่ดินภารยทรัพย์ของโจทก์หมดประโยชน์แก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 1870ซึ่งเป็นที่ดินสามยทรัพย์ของจำเลย

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาย สม ยอดสุวรรณ จำเลย - นาง อุษณีย์ ลิงคาลวณิชยหรือศิริพัฒน์ กับพวก

ชื่อองค์คณะ กอบเกียรติ รัตนพานิช นายสมมาตร พรหมานุกูล ชลอ บุณยเนตร

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE