สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2518

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2518

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 19 (2), 22 ประมวลกฎหมายอาญา ม. 353

ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353,84 โดยบรรยายว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนโจทก์ที่ 1 กระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต ด้วยการยุยงส่งเสริมของจำเลยที่ 2 โดยจำเลยที่ 1 นำเช็คของโจทก์ที่ 1 มอบให้จำเลยที่ 2 เพื่อให้จำเลยที่ 2 นำไปเป็นประโยชน์ส่วนตน ต่อมาจำเลยที่ 2 นำเช็คนั้นไปเข้าบัญชีของจำเลยที่ 2 ให้เรียกเก็บเงินจากบัญชีโจทก์ที่ 1 ธนาคารได้ตัดเงินจากบัญชีโจทก์ที่ 1 จ่ายให้ไป ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ได้ความตามฟ้องว่า จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็คที่ตำบลลาดยาวอำเภอบางเขน แล้วจำเลยที่ 2 นำเช็คไปเข้าบัญชีที่ธนาคาร ก. สาขาภาษีเจริญ การนำเช็คไปเข้าบัญชีและรับเงินก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความผิดตามฟ้องสำเร็จบริบูรณ์ ท้องที่ที่จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็ค และท้องที่ที่จำเลยที่ 2 นำเช็คไปเข้าบัญชี ต่างก็เป็นที่เกิดเหตุคดีนี้ ธนาคาร ก. สาขาภาษีเจริญ อยู่ในเขตอำนาจของศาลแขวงธนบุรีศาลแขวงธนบุรีจึงมีอำนาจพิจารณาและพิพากษาคดีนี้

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องต่อศาลแขวงธนบุรีว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งในขณะนั้นได้รับมอบหมายจากโจทก์ ให้เป็นผู้จัดการทรัพย์สินของโจทก์ที่ 1 ได้กระทำผิดหน้าที่ของตนโดยเจตนาทุจริต ด้วยการใช้และยุยงส่งเสริมของจำเลยที่ 2 กล่าวคือ จำเลยที่ 1 ได้บังอาจนำเช็คของโจทก์ที่ 1 จำนวน 100,000 บาท มอบให้จำเลยที่ 2 เพื่อให้จำเลยที่ 2 นำเช็คนั้นไปเป็นประโยชน์ส่วนตน และต่อมาจำเลยที่ 2 ได้นำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีของจำเลยที่ 2 ซึ่งได้เปิดไว้กับธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาภาษีเจริญ ให้เรียกเก็บเงินจากบัญชีของโจทก์ที่ 1 ซึ่งได้เปิดไว้กับธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาเยาวราช ธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาเยาวราช จึงได้ตัดเงินจากบัญชีโจทก์ที่ 1 จำนวน 100,000 บาท ตามเช็คจ่ายให้ไป ทำให้โจทก์ทั้งสองได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่ตำบลบางหว้า อำเภอภาษีเจริญ ตำบล (แขวง) ลาดยาว อำเภอ (เขต) บางเขน กรุงเทพมหานคร เกี่ยวเนื่องกัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353, 84

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่า เหตุเกิดที่ตำบลลาดยาวอำเภอบางเขน นอกเขตอำนาจศาลแขวงธนบุรี พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

มีปัญหามาสู่ศาลฎีกาว่า คดีนี้เหตุเกิดที่ท้องที่ใด ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็คของห้างหุ้นส่วนโจทก์ที่ 1 ให้แก่จำเลยที่ 2 ที่ตำบลลาดยาว อำเภอบางเขน กรุงเทพมหานคร แล้วจำเลยที่ 2 นำเช็คนั้นไปเข้าบัญชี ที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาภาษีเจริญ

ศาลฎีกาเห็นว่า การนำเช็คไปเข้าบัญชีและรับเงิน ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ความผิดตามฟ้องสำเร็จบริบูรณ์ ท้องที่ที่จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็ค และท้องที่ที่จำเลยที่ 2 นำเช็คไปเข้าบัญชี ต่างก็เป็นที่เกิดเหตุคดีนี้ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาภาษีเจริญ อยู่ในเขตอำนาจของศาลแขวงธนบุรี ศาลแขวงธนบุรีจึงมีอำนาจพิจารณาและพิพากษาคดีนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22

พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยถึงมูลคดีซึ่งจำเลยต้องหา แล้วพิพากษาหรือมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - ห้างหุ้นส่วนจำกัดพหลโยธิน โดยนายสุวัฒน์ วิจิตรกาญจน์ โจทก์ - ผู้จัดการ ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน จำเลย - นางจันทนา วิจิตรกาญจน์ ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน

ชื่อองค์คณะ รื่น วิไลชนม์ สนับ คัมภีรยส สมชัย ทรัพยวณิช

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE