สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5045/2532

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5045/2532

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 174 พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 ม. 6

แม้จะฟังได้ว่าจำเลยอยู่ในวงการพนันไฮโลว์ ด้วยก็ตาม แต่วงการพนันไฮโลว์ ที่เกิดเหตุอยู่ที่เพิง ขายอาหารซึ่งตั้งอยู่บนทางสาธารณะ หน้าอู่รถโดยสารประจำทาง ซึ่งประชาชนทั่วไปมีความชอบธรรมจะเข้าไปได้ ที่เกิดเหตุจึงเป็นสาธารณสถาน ต้องด้วยข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 6 ที่มิให้สันนิษฐานว่าจำเลยเป็นผู้เข้าเล่นการพนันด้วยเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธตลอดมาตั้งแต่ชั้นจับกุม ชั้นสอบสวน จนถึงชั้นพิจารณา จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้ได้ความว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ ศาลก็ต้องพิพากษายกฟ้อง.

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามกับพวกเล่นการพนันไฮโลว์เอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15 และสั่งให้จำเลยใช้เงินสินบนแก่ผู้นำจับกึ่งหนึ่งของจำนวนค่าปรับ

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 12 ปรับคนละ1,400 บาท ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30ให้จำเลยทั้งสามใช้เงินสินบนแก่ผู้นำจับกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินค่าปรับ

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าจำเลยทั้งสามได้ร่วมกับพวกเล่นการพนันไฮโลว์ตามฟ้องของโจทก์หรือไม่โจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมจำเลยทั้งสามคือ ร้อยตำรวจโทเกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ สิบตำรวจเอกไพศาล รักทอง และจ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ หามนตรี มาเบิกความเป็นพยานว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุจำเลยทั้งสามกับพวกอีก 7 คน ที่จับได้ และอีก 4-5 คนที่หลบหนีไปได้ร่วมกันเล่นการพนันไฮโลว์ แต่พยานของโจทก์ทั้ง 3 ปากนี้ไม่มีผู้ใดยืนยันว่าเห็นจำเลยทั้งสามขณะเล่นการพนันดังกล่าว โดยร้อยตำรวจโทเกียรติพงศ์เบิกความทำนองว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุผู้ที่เล่นการพนันได้หลบหนีจึงเข้าจับกุม ส่วนสิบตำรวจเอกไพศาลและจ่าสิบตำรวจประสิทธิ์เบิกความว่า ไม่เห็นว่าจำเลยทั้งสามเล่นการพนันกันอย่างไร ใครจะเป็นเจ้ามือก็ไม่ทราบ ส่วนที่บันทึกคำให้การของผู้ต้องหารวม 7 คนซึ่งถูกจับกุมพร้อมกับจำเลยทั้งสามตามเอกสารหมาย จ.3 ถึง จ.9 ระบุว่า จำเลยทั้งสามได้ร่วมเล่นการพนันไฮโลว์ด้วยนั้น ก็ปรากฏจากคำเบิกความของผู้ต้องหาสามในเจ็ดคนที่โจทก์นำมาสืบว่า จำเลยทั้งสามมิได้ร่วมเล่นการพนันไฮโลว์ด้วยแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงจึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามได้ร่วมเล่นการพนันไฮโลว์ตามฟ้อง และแม้จะฟังได้ว่าจำเลยทั้งสามอยู่ในวงการพนันไฮโลว์ดังกล่าวด้วยก็ตาม แต่ก็ปรากฏจากคำเบิกความของร้อยตำรวจโทเกียรติพงศ์ สิบตำรวจเอกไพศาล และจ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ว่า ที่เกิดเหตุเป็นเพิงขายอาหารตั้งอยู่บนทางสาธารณะซึ่งประชาชนทั่วไปมีความชอบธรรมที่จะเข้าไปได้ จึงเป็นสาธารณสถาน ต้องด้วยข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 6 ที่มิให้สันนิษฐานว่าจำเลยทั้งสามเป็นผู้เข้าเล่นพนันด้วย เมื่อจำเลยทั้งสามปฏิเสธตลอดมาตั้งแต่ชั้นจับกุม ชั้นสอบสวน จนถึงชั้นศาลจึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้ได้ความว่าจำเลยทั้งสามกระทำผิดตามฟ้อง เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ คดีจึงไม่อาจลงโทษจำเลยทั้งสามได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์นั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการ กรมอัยการ จำเลย - นาย จัก รินทร์ จัน เอก กับพวก

ชื่อองค์คณะ สุประดิษฐ์ หุตะสิงห์ สุรัตน์ ศรีอนุพันธุ์ สัญชัย สิงหลกะ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE