สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4961/2539

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4961/2539

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1251 วรรคสอง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 2 (4)

กรณีห้างหุ้นส่วนจำกัดจะต้องเลิกกันเมื่อปรากฏว่าข้อสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์หรือข้อความในหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลของโจทก์ไม่มีข้อกำหนดให้บุคคลอื่นเป็นผู้ทำหน้าที่ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์ได้ในกรณีหุ้นส่วนผู้จัดการถึงแก่ความตายการจัดการชำระบัญชีจึงต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1251วรรคสองซึ่งบัญญัติไว้โดยเฉพาะซึ่งต้องทำโดยพนักงานอัยการหรือบุคคลอื่นผู้มีส่วนได้เสียในการนี้เท่านั้นที่จะร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้ชำระบัญชีเมื่อปรากฏว่าผู้เป็นหุ้นส่วนของโจทก์และผู้จัดการมรดกของช.หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์ประชุมลงคะแนนเสียงตั้งบ. เป็นผู้ชำระบัญชีของโจทก์เสียเองจึงเป็นการตั้งผู้ชำระบัญชีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายบ. จึงไม่ใช่ผู้ชำระบัญชีของโจทก์ที่จะมีอำนาจทำการแทนโจทก์ได้

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352, 353

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 แต่จำเลยเป็นภริยาของนายชูเกียรติ หุ้นส่วนผู้จัดการโจทก์และเป็นเรื่องพิพาทกันระหว่างวงศ์ญาติสมควรลงโทษสถานเบาโดยให้จำคุก 3 เดือน คำขออื่นให้ยก

จำเลย อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง

โจทก์ ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์จดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดมีนายชูเกียรติเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ต่อมานายชูเกียรติถึงแก่ความตาย ผู้เป็นหุ้นส่วนและผู้จัดการมรดกของนายชูเกียรติลงมติตั้งนายบุญยงเป็นผู้ชำระบัญชี และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าการจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์ โดยมีนายบุญยงเป็นผู้ชำระบัญชีชอบหรือไม่ เมื่อนายชูเกียรติซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการโจทก์ถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1055(5) ประกอบ มาตรา 1080 ห้างหุ้นส่วนจำกัดจะต้องเลิกกัน ซึ่งจะต้องจัดการชำระบัญชี เกี่ยวกับการจัดการชำระบัญชีในกรณีห้างหุ้นส่วนจำกัดเลิกกัน ได้มีบทบัญญัติไว้ในมาตรา 1251กำหนดให้หุ้นส่วนผู้จัดการเป็นผู้ชำระบัญชีเว้นแต่สัญญาของห้างจะมีกำหนดไว้เป็นสถานอื่น ซึ่งตามพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบข้อสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์หรือข้อความในหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลไม่มีข้อกำหนดให้บุคคลอื่นเป็นผู้ทำหน้าที่ชำระบัญชีโจทก์ได้ ดังนั้นการจัดการชำระบัญชีจึงต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 วรรคสองซึ่งบัญญัติไว้โดยเฉพาะว่า ถ้าไม่มีผู้ชำระบัญชีดังกว่ามานี้ และเมื่อพนักงานอัยการหรือบุคคลอื่นผู้มีส่วนได้เสียในการนี้ร้องขอท่านให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชี ซึ่งแตกต่างจากการชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญซึ่งบัญญัติไว้ในมาตรา 1061 วรรคสามและวรรคสี่ดังนั้นการตั้งผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์ จึงต้องทำโดยพนักงานอัยการหรือบุคคลอื่นผู้มีส่วนได้เสียในการนี้เท่านั้นร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้ชำระบัญชี เมื่อปรากฏว่าผู้เป็นหุ้นส่วนของโจทก์และผู้จัดการมรดกของนายชูเกียรติประชุมลงคะแนนเสียงตั้งนายบุญยงเป็นผู้ชำระบัญชีของโจทก์ จึงเป็นการตั้งผู้ชำระบัญชีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนายบุญยงจึงไม่ใช่ผู้ชำระบัญชีของโจทก์ที่จะมีอำนาจทำการแทนโจทก์ได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - ห้างหุ้นส่วนจำกัด เล็กโก้การพิมพ์ จำเลย - นาง สุวรรณพร แทนไกรศร

ชื่อองค์คณะ กนก พรรณรักษา พิมล สมานิตย์ สมชัย สายเชื้อ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE