สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2523

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2523

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 292

ศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากบ้านของโจทก์ ระหว่างบังคับคดีโจทก์ตกลงจะขายบ้านพิพาทให้จำเลย และได้รับเงินค่าบ้านไปบางส่วนดังนี้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นแต่เพียงสัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์กรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทยังคงเป็นของโจทก์อยู่ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ตกลงยินยอมให้จำเลยอยู่ในบ้านพิพาทต่อไปเมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาล โจทก์ก็มีสิทธิขอให้ศาลบังคับคดีต่อไปได้ ถ้าจำเลยเห็นว่าโจทก์ผิดสัญญา ก็ชอบที่จะว่ากล่าวเอากับโจทก์เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก หาถือเป็นเหตุให้งดบังคับคดีไว้ได้ไม่

เนื้อหาฉบับเต็ม

ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ตกลงขายบ้านพิพาทให้จำเลยโดยจำเลยชำระค่าบ้านบางส่วน หนี้ตามคำพิพากษาจึงเป็นอันระงับเพราะโจทก์จำเลยผูกพันตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำกันใหม่ โจทก์ไม่มีสิทธิบังคับคดีตามหนี้เดิม ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยออกจากบ้านพิพาท จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากบ้านพิพาทของโจทก์พร้อมกับชดใช้ค่าเสียหาย คดีถึงที่สุด จำเลยได้ทราบคำบังคับของศาลแล้ว ระหว่างบังคับคดีโจทก์ได้ตกลงจะขายบ้านพิพาทให้แก่จำเลยและได้รับเงินค่าบ้านไปแล้วบางส่วน แต่เนื่องจากเงินค่าบ้านจำนวนหนึ่งตามที่จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายให้แก่โจทก์ขึ้นเงินจากธนาคารไม่ได้ โจทก์จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้บังคับคดีโดยให้จำเลยออกจากบ้านพิพาทต่อไป ปัญหามีว่า การที่โจทก์จำเลยตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้านพิพาทโดยโจทก์ได้รับเงินค่าบ้านบางส่วนจากจำเลยแล้วจะเป็นเหตุให้งดการบังคับคดีตามที่จำเลยกล่าวอ้างหรือไม่

พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า แม้คดีจะฟังได้ว่า ในระหว่างการบังคับคดีโจทก์ได้ตกลงขายบ้านพิพาทให้แก่จำเลย และได้รับเงินค่าบ้านไปบางส่วนแล้วก็ตาม แต่ข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยดังกล่าวก็เป็นแต่เพียงสัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทที่ขายยังคงเป็นของโจทก์อยู่ ทั้งคดีไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ตกลงยินยอมให้จำเลยอยู่อาศัยในบ้านพิพาทนั้นต่อไป ฉะนั้นเมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาล โจทก์จึงมีสิทธิขอให้ศาลบังคับคดีตามคำพิพากษาดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ได้ ถ้าจำเลยเห็นว่าโจทก์ผิดสัญญาจะซื้อขายบ้านพิพาท ก็ชอบที่จำเลยจะว่ากล่าวเอากับโจทก์เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก หาถือเป็นเหตุให้งดการบังคับคดีไว้ดังที่จำเลยกล่าวอ้างไม่ เทียบตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 2144/2518 คดีระหว่างบริษัทกรรณสูต จำกัด โจทก์ นายมานะ คำมูลนา กับพวก จำเลย ส่วนคำพิพากษาฎีกาที่ 19/2504 ที่จำเลยยกขึ้นอ้างเทียบเคียงไว้ในฎีกา ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นางทองใบ จึงชูศรี จำเลย - นางสาวสุวรรณี เขมอนันต์ชัย

ชื่อองค์คณะ พิศิษฏ์ เทศะบำรุง โสพิทย์ คังคะเกตุ จินดา บุญศิริ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE