สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4758/2533

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4758/2533

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 288, 80, 72

ผู้เสียหายและจำเลยกับพวกนั่งดื่มสุรากันที่บ้านพักจำเลย ต่อมาผู้เสียหายเรียกจำเลยให้ลงไปพูดกัน จำเลยไม่ลง ผู้เสียหายดึงมือจำเลยหลายครั้งจนจำเลยตกจากที่นั่ง แล้วจำเลยเดินหนีเข้าไปในห้องนอนของจำเลย ผู้เสียหายเดินตามจำเลยเข้าไปในห้องกระชากมือจำเลยออกมา เช่นนี้ ผู้เสียหายเป็นผู้ก่อเหตุ กรณีถือได้ว่าจำเลยถูกผู้เสียหายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้เหล็กตะไบสามเหลี่ยมแทงผู้เสียหายที่บริเวณหน้าท้อง 2 ทีขณะที่ผู้เสียหายเข้าไปกระชากมือหรือจับบ่า จำเลยดึงออกมาข้างนอกห้อง จึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72.

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80,288, 33

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80, 288 จำคุก 10 ปี คำให้การจำเลยในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 69 จำคุก 3 ปี คำให้การจำเลยในช้นสอบสวนและชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล ลดโทษให้นึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่าผู้เสียหาย จำเลย นายสุพรรณ โกรธกล้า นายประสพ วังเวงจิตรและพวกนั่งดื่มสุรากันอยู่ที่บ้านพักจำเลย ต่อมาผู้เสียหายได้เรียกจำเลยให้ลงไปพูดกัน จำเลยไม่ลง ผู้เสียหายได้ดึงมือจำเลยหลายครั้งจนจำเลยตกจากที่นั่ง แล้วจำเลยได้เดินหนีเข้าไปในห้องนอนของจำเลย ผู้เสียหายเดินตามจำเลยเข้าไป จำเลยได้ใช้เหล็กตะไบสามเหลี่ยมแทงผู้เสียหายที่บริเวณหน้าท้อง 2 ที ในปัญหาที่ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายหรือไม่ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า คดีฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่น่าเชื่อว่าจำเลยแทงผู้เสียหายขณะที่ผู้เสียหายเข้าไปกระชาดมือหรือจับบ่าจำเลยดึงออกมาข้างนอกห้องการที่ผู้เสียหายกระทำดังกล่าว ผู้เสียหายจึงเป็นผู้ก่อเหตุ กรณีถือได้ว่าจำเลยถูกผู้เสียหายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจำเลยกระทำความผิดต่อผู้เสียหายในขณะนั้นจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80, 288 ประกอบด้วยมาตรา 72 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการ จังหวัด สิงห์บุรี จำเลย - นาย อ้อย เปรมปรีดา

ชื่อองค์คณะ บุญส่ง วรรณกลาง วิทวัส อยู่วัฒนา ตัน เวทไว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE