สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4500/2531

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4500/2531

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 68, 69, 288, 290

ผู้ตายเตะต่อยและใช้ขวดตีจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้ขวดตีผู้ตายถึงแก่ความตาย การที่ผู้ตายเมาสุราและเข้าไปทำร้ายจำเลยก่อนจำเลยก็ชอบที่จะป้องกันได้ตามกฎหมาย แต่เนื่องจากจำเลยทราบอยู่แล้วว่าผู้ตายชอบด่าและทำร้ายคนในบ้าน ทั้งผู้ตายมีอายุมากและยังเมาสุรา จำเลยอาจกระทำการใดเพื่อป้องกันโดยไม่จำต้องรุนแรงจนถึงกับเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายก็ได้ การที่จำเลยใช้ขวดตีผู้ตายตรงบริเวณที่สำคัญของร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายนั้น จึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่าขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ประกอบด้วย มาตรา 69 จำคุก 3 ปีจำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า จำเลยตีผู้ตายหรือไม่ และจำเลยป้องกันตัวเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น โจทก์มีนางหล้า งามสุด เบิกความว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายด่านางประเสริฐบุตร แล้วบ่นต่อไปอีกเรื่อย ๆ ต่อมาพยานได้ยินเสียงผู้ตายว่าไอ้เชียรมึงให้ควยกูหรือแล้วผู้ตายเดินไปที่ครัวทันใดนั้นพยานได้ยินเสียงโครมครามที่ครัว พยานรู้สึกกลัวจึงวิ่งลงจากบ้านไปหลบอยู่ใต้ถุน เพราะเคยถูกผู้ตายตบตีบ่อย ๆสักพักหนึ่งได้ยินเสียงขวดแตก แล้วได้ยินเสียงผู้ตายร้องโอ๊ยและพูดว่ามึงทำกูได้ เมื่อเสียงผู้ตายเงียบ พยานเดินไปที่ครัวพบจำเลยเดินลงจากครัวออกจากบ้านไป ส่วนจำเลยต่อสู้ว่าผู้ตายเตะต่อยจำเลยและใช้ขวดตีจำเลยเฉียดศีรษะ จำเลยจึงจับขวดไว้และยื้อแย่งขวดกัน ขวดตกลงไปแตก ผู้ตายเสียหลักล้มลงเห็นว่าในขณะเกิดเหตุคงมีผู้ตายกับจำเลยอยู่ด้วยกันเพียง 2 คนนางหล้าเป็นภรรยาผู้ตายและเป็นแม่ยายของจำเลย และเคยถูกผู้ตายทำร้ายเสมอเวลาเมาสุรา น่าเชื่อว่านางหล้าเบิกความไปตามจริงและจากบาดแผลที่ผู้ตายได้รับนั้น นายแพทย์มานะ จันทรชาติเบิกความยืนยันว่าบาดแผลที่ท้ายทอยเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย เมื่อพิจารณาถึงที่เกิดเหตุตามภาพถ่ายหมาย ป.จ.5จะเห็นได้ว่าตรงที่ผู้ตายล้มลงนอนตายนั้นเป็นพื้นกระดาน หากผู้ตายเสียหลักล้มลงตามที่จำเลยต่อสู้บาดแผลจะไม่เกิดที่ท้ายทอยเมื่อนำคำเบิกความของนางหล้าที่เบิกความว่าได้ยินเสียงผู้ตายร้องโอ๊ยและพูดว่ามึงทำกูได้มาประกอบแล้ว พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักฟังได้ว่า จำเลยใช้ขวดตีผู้ตายที่ท้ายทอยจริงข้อต่อสู้ของจำเลยไม่อาจหักล้างพยานโจทก์ได้ ในปัญหาว่าจำเลยกระทำโดยป้องกันเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น ได้ความว่าผู้ตายเข้าไปหาจำเลยซึ่งกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ในครัว และมีเสียงโครมคราม จำเลยนำสืบว่าผู้ตายเตะต่อยจำเลยแล้วใช้ขวดตีจำเลยก่อน เห็นว่าโจทก์ไม่มีพยาน เห็นว่าจำเลยตีผู้ตายเพียงฝ่ายเดียว ข้อเท็จจริงน่าเชื่อว่าผู้ตายเตะต่อยและใช้ขวดตีจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้ขวดตีผู้ตายถึงแก่ความตาย การที่ผู้ตายเมาสุราและเข้าไปทำร้ายจำเลยก่อน จำเลยก็ชอบที่จะป้องกันได้ตามกฎหมาย แต่เนื่องจากจำเลยทราบอยู่แล้วว่าผู้ตายชอบด่าและทำร้ายคนในบ้าน ทั้งผู้ตายมีอายุมากและยังเมาสุรา จำเลยอาจกระทำการใดเพื่อป้องกันโดยไม่จำต้องรุนแรงจนถึงกับเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายก็ได้ การที่จำเลยใช้ขวดตีผู้ตายตรงบริเวณที่สำคัญของร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายนั้น จึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ และโทษที่ศาลอุทธรณ์กำหนดมานั้นเหมาะสมแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - อัยการ สระบุรี จำเลย - นาย วิเชียร อนันตโรจน์

ชื่อองค์คณะ บุญส่ง วรรณกลาง ประชา บุญวนิช นิเวศน์ คำผอง

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE