สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4121/2532

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4121/2532

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 537 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 86

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากตึกแถวที่เช่าเนื่องจากครบกำหนดอายุการเช่า เมื่อจำเลยไม่ให้การปฏิเสธข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามที่โจทก์ฟ้องจำเลยไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในตึกแถวที่เช่าต่อไป ส่วนข้อต่อสู้ที่ว่า โจทก์มิใช่เจ้าของตึกแถวที่ให้เช่า โจทก์ผิดสัญญาไม่โอนขายตึกแถวที่เช่าให้จำเลยทำให้จำเลยเสียหายนั้น ไม่เป็นเหตุให้จำเลยมีสิทธิอยู่ในตึกแถวได้ ดังนี้ ศาลงดสืบพยานและพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารได้

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้เช่าตึกแถว 4 ชั้นจำนวน 1 คูหาจากโจทก์ มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 3 ปี โจทก์ได้มอบอำนาจให้ทนายโจทก์มีหนังสือแจ้งให้จำเลยทราบว่าสัญญาเช่าตึกแถวจะครบกำหนดอายุสัญญาเช่า โจทก์ไม่มีความประสงค์จะให้จำเลยได้เช่าตึกแถวดังกล่าวต่อไป ให้จำเลยขนย้ายออกไปแต่จำเลยไม่ยอมรับหนังสือของทนายโจทก์ ขอให้พิพากษาบังคับให้จำเลยพร้อมด้วยบริวารขนย้ายครอบครัวและสิ่งของออกไปจากตึกแถวของโจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะโจทก์ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ตึกแถวตามฟ้อง โจทก์เคยตกลงขายตึกแถวตามฟ้องพร้อมที่ดินให้จำเลยในราคา 2,700,000 บาท จำเลยได้วางมัดจำไว้เป็นเงิน 150,000 บาท แต่โจทก์ผิดสัญญาไม่โอนตึกแถวให้จำเลย และนำตึกแถวดังกล่าวไปขายให้บุคคลอื่น โจทก์ไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาเช่าข้อ 11 ทำให้จำเลยเสียหาย และโจทก์มิได้บอกกล่าวให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินออกจากตึกแถวตามฟ้อง

ในวันนัดชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำฟ้องคำให้การเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้ ให้งดชี้สองสถานและงดสืบพยาน แล้ววินิจฉัยว่าจำเลยทำสัญญาเช่าตึกแถวตามฟ้องจากโจทก์ สัญญาเช่าครบกำหนดแล้ว โจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยเช่าต่อไป จำเลยไม่มีสิทธิที่จะอยู่ที่ตึกแถวที่เช่า แม้จะฟังว่าโจทก์มิใช่เจ้าของตึกแถวที่ให้เช่าโจทก์ก็ฟ้องขับไล่ได้โดยไม่จำต้องบอกกล่าวให้จำเลยออกจากตึกแถวที่เช่าก่อน ข้อที่จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ผิดสัญญาไม่ขายตึกแถวที่เช่าให้จำเลย และโจทก์ผิดสัญญาเช่าข้อ 11 ก็ไม่เป็นเหตุที่ทำให้ จำเลยได้เช่าตึกแถวที่เช่าต่อไปได้ พิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารขนย้ายครอบครัวและสิ่งของออกไปจากตึกแถวของโจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "คดีมีข้อวินิจฉัยว่า ที่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยชี้ขาดตัดสินคดีชอบหรือไม่ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากตึกแถวที่จำเลยเช่าจากโจทก์ เนื่องจากสัญญาเช่าครบกำหนดอายุการเช่า เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธในข้อนี้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามที่โจทก์ฟ้องซึ่งจำเลยไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในตึกแถวที่เช่าต่อไป ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ว่า โจทก์มิใช่เจ้าของตึกแถวที่ให้เช่า โจทก์ผิดสัญญาไม่โอนขายตึกแถวที่ให้เช่าให้จำเลย โจทก์ผิดสัญญาเช่าข้อ 11 ทำให้จำเลยเสียหายและโจทก์มิได้บอกกล่าวให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินออกจากตึกแถวที่เช่านั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้ข้อเท็จจริงจะได้ความตามข้อต่อสู้ของจำเลยก็ไม่เป็นเหตุที่ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิขับไล่จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าออกจากตึกแถวที่เช่าเมื่อครบกำหนดอายุสัญญาเช่า เพราะสัญญาเช่านั้นเป็นเพียงสัญญาที่ผู้ให้เช่าตกลงให้ผู้เช่าได้ใช้ หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งชั่วระยะเวลาอันมีจำกัดเท่านั้น ผู้ให้เช่าไม่จำต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ให้เช่าและสัญญาเช่าย่อมระงับไปเมื่อสิ้นกำหนดเวลาที่ได้ตกลงกันไว้โดยผู้ให้เช่าไม่จำต้องบอกกล่าวก่อน และหากได้ความว่าการที่โจทก์ผิดสัญญา ไม่โอนขานตึกแถวให้จำเลยและผิดสัญญาเช่าทำให้จำเลยเสียหาย ก็เห็นว่าไม่เป็นเหตุทำให้จำเลยมีสิทธิอยู่ในตึกแถวได้ต่อไปเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดตามสัญญา"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาง พิไล ทิพย์จำนรรจ์ จำเลย - นาง เกื้อกูล สุวรรณ ศิริพัฒน์

ชื่อองค์คณะ ครีภูมิ สุวรรณโรจน์ สุนทร จันทรศักดิ์ สุวรรณ ตระการพันธุ์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE