สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4067/2532

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4067/2532

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 156

การขอขยายระยะเวลาการบังคับคดี มีผลเท่ากับเป็นการขอทุเลาการบังคับคดี และการจะให้ทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์หรือไม่ เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะจำเลยจะฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์ไม่ได้.

เนื้อหาฉบับเต็ม

มูลกรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกไปให้พ้นที่ดินโจทก์ห้ามจำเลยและจำเลยร่วมเกี่ยวข้องกับที่ดินโจทก์ต่อไป จำเลยอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ยกคำร้อง

จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์ขยายระยะเวลาการบังคับคดีออกไป จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษา

ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้อง

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า การที่จำเลยขอขยายระยะเวลาการบังคับคดีมีผลเท่ากับเป็นการขอทุเลาการบังคับคดี เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ ก็เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะ จำเลยจะฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวหาได้ไม่ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายกฎีกาของจำเลย.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาง จำลอง กิจ พยัคฆ์ จำเลย - นาง สมบัติ สังข์ กระจาย จำเลย - จำเลยร่วม จำเลย - นาย น้อย ทอง อ่อน

ชื่อองค์คณะ ประวิทย์ ขัมภรัตน์ วิฑูรย์ ตั้งตรงจิตต์ เคียง บุญเพิ่ม

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE