คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4043/2567
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1713 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 42, 43, 132 (3)
การขอตั้งผู้จัดการมรดกตลอดจนการคัดค้านการขอตั้งผู้จัดการมรดกเป็นเรื่องเฉพาะตัวของทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียแต่ละคน ทายาทของผู้ร้องที่ 1 ไม่อาจเข้ามาเป็นคู่ความแทนได้ ให้ยกคำร้อง และเมื่อผู้ร้องที่ 1 ถึงแก่ความตาย จึงไม่เป็นประโยชน์ที่จะพิจารณาฎีกาของผู้ร้องที่ 1 ต่อไป จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีของผู้ร้องที่ 1 เสียจากสารบบความของศาลฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 132 (3)
คดีสืบเนื่องมาจากศาลฎีกามีคำพิพากษาตั้งนางอรัญญา ผู้ร้องที่ 1 นายหวังสนิ นายมูฮำหมัด และนายสมัย ผู้ร้องที่ 2 ร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกของนายหมัดใจ ผู้ตาย ต่อมานายหวังสนิและนายมูฮำหมัดถึงแก่ความตาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องทั้งสองร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องและแก้ไขคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งถอนผู้ร้องทั้งสองออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ผู้ร้องที่ 1 ยื่นคำคัดค้านและแก้ไขคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ระหว่างพิจารณา ผู้ร้องที่ 2 ถึงแก่ความตาย ผู้คัดค้านแถลงไม่ติดใจที่จะขอถอนผู้ร้องที่ 2 ออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก และผู้ร้องที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายว่า ผู้คัดค้านมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียที่จะยื่นคำร้องขอให้ถอนผู้จัดการมรดก
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่า เห็นสมควรวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 เสียก่อน จึงให้งดไต่สวน แล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้คัดค้าน ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องของผู้คัดค้านไว้ไต่สวนแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้ร้องที่ 1 ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา นางอรัญญา ผู้ร้องที่ 1 ถึงแก่ความตาย ทายาทของผู้ร้องที่ 1 ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่า การขอตั้งผู้จัดการมรดกตลอดจนการคัดค้านการขอตั้งผู้จัดการมรดกเป็นเรื่องเฉพาะตัวของทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียแต่ละคน ทายาทของผู้ร้องที่ 1 ไม่อาจเข้ามาเป็นคู่ความแทนได้ ให้ยกคำร้อง และเมื่อผู้ร้องที่ 1 ถึงแก่ความตาย จึงไม่เป็นประโยชน์ที่จะพิจารณาฎีกาของผู้ร้องที่ 1 ต่อไป
จึงให้จำหน่ายคดีของผู้ร้องที่ 1 เสียจากสารบบความของศาลฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132 (3) คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมดให้แก่ทายาทหรือผู้จัดการมรดกของผู้ร้องที่ 1 ค่าฤชาธรรมเนียมอื่นนอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา พ.120/2567
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา


