สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4040/2567

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4040/2567

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 86 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 192 วรรคสอง, 215, 225 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 ม. 3, 5 (3), 25

กลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกมมีลักษณะเป็นการรวมตัวกันของคณะบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ร่วมกันกระทำการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และฉ้อโกงประชาชนรวมถึงผู้เสียหายโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ซึ่งเป็นความผิดอาญาที่กฎหมายกำหนดโทษจำคุกขั้นสูงตั้งแต่สี่ปีขึ้นไปหรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ทางการเงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์ทางวัตถุอย่างอื่นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม และกระทำในเขตแดนของรัฐมากกว่าหนึ่งรัฐ หรือที่กระทำในรัฐหนึ่ง แต่การตระเตรียม การวางแผน การสั่งการ การสนับสนุน หรือการควบคุมการกระทำความผิดได้กระทำในอีกรัฐหนึ่ง กลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกมจึงเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และผู้ซึ่งเป็นสมาชิก เครือข่ายดำเนินงาน หรือผู้ที่สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดดังกล่าวอันเกี่ยวข้องกับแก๊งโรแมนซ์สแกม หรือผู้ที่มีส่วนร่วมกระทำการใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการของแก๊งโรแมนซ์สแกม โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรม หรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดดังกล่าว ย่อมมีความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

จำเลยเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร ท. โดยมิได้มีเจตนาเพื่อจะใช้ทำธุรกรรมทางการเงินของตนตามปกติ แต่เพื่อจะมอบบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่นนำไปใช้หรือยินยอมให้มีการนำไปใช้ในการกระทำความผิดของกลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกม เมื่อกลุ่มคนร้ายดังกล่าวนำบัญชีเงินฝากธนาคารของจำเลยไปใช้รับโอนเงินที่หลอกลวงผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่สมาชิกหรือเครือข่ายดำเนินงาน หรือผู้ที่สมคบกันเพื่อกระทำความผิด หรือผู้มีส่วนร่วมกระทำการใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในกิจกรรมหรือการดำเนินการของกลุ่มคนร้าย จำเลยจึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของกลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกม แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่า จำเลยช่วยเหลือในการกระทำความผิดของกลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกมดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 มาตรา 5 (4) มาด้วย จึงไม่อาจลงโทษจำเลยฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเพราะเหตุนี้ได้ แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ศาลย่อมลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้สนับสนุนตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสอง ประกอบมาตรา 215 และ 225

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 มาตรา 3, 5, 6, 7, 25

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา โดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งกันรับฟังเป็นยุติว่า เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2562 กลุ่มคนร้ายติดต่อกับนางสาวพัสตร์ชิตา ผู้เสียหาย ผ่านทางแอปพลิเคชันสำหรับหาเพื่อนพูดคุย TAN TAN และแอปพลิเคชันไลน์ (LINE) โดยแอบอ้างแสดงตนว่าเป็นชายต่างชาติเชื้อสายจีน อาศัยและทำงานในต่างประเทศ สนทนาพูดคุยทางข้อความกับผู้เสียหายแล้วแจ้งว่าได้ส่งพัสดุเป็นของมีค่าไปให้ จากนั้นกลุ่มคนร้ายติดต่อผู้เสียหายทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ อ้างว่าเป็นพนักงานบริษัทขนส่งสินค้าต่างประเทศมีพัสดุมูลค่าสูงส่งถึงผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายจะต้องเสียภาษีศุลกากรและค่าประกันความปลอดภัยในการขนส่งก่อน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินชำระผ่านทางบัญชีธนาคารตามที่แจ้งหลายบัญชี ซึ่งมีบัญชีเงินฝากธนาคาร ท. ชื่อจำเลยเป็นเจ้าของบัญชีรวมอยู่ด้วย แต่ธนาคารแจ้งว่าไม่สามารถทำรายการได้ จึงมีการเปลี่ยนเป็นบัญชีอื่นจนผู้เสียหายสามารถนำเงินฝากเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่คนร้ายแจ้งรวม 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 และที่ 2 เมื่อวันที่ 16 และ 17 เมษายน 2562 โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ก. ชื่อบัญชีนางสาวอรณิชา เป็นเงิน 160,000 บาท และ 400,000 บาท ตามลำดับ ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ร. ชื่อบัญชีนางสาวกัญฐมณี เป็นเงิน 1,000,000 บาท ต่อมากลุ่มคนร้ายเบิกถอนเงินครั้งที่ 1 และที่ 2 ออกจากบัญชีดังกล่าวไปทั้งหมด แต่ในการโอนเงินครั้งที่ 3 เจ้าพนักงานตำรวจสามารถอายัดเงินได้บางส่วนเป็นเงินประมาณ 900,000 บาท

คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยกระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ เห็นว่า วิธีการที่กลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกมประเทศมาเลเซียร่วมกันหลอกลวงเพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวงรวมถึงผู้เสียหาย กระทำโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์และสังคมออนไลน์ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ สร้างตัวตนบัญชีผู้ใช้งานในสื่อสังคมออนไลน์ว่าเป็นชายชาวต่างชาติที่มีฐานะดีประกอบอาชีพน่าเชื่อถือ ติดต่อหลอกลวงผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงว่าต้องการสร้างความสัมพันธ์สนใจจะคบหาเป็นคนรักหรือเพื่อน และอ้างว่าส่งพัสดุเป็นสิ่งของมีมูลค่าสูงหรือเงินจากต่างประเทศไปให้ จากนั้นกลุ่มคนร้ายจะแอบอ้างแสดงตนเป็นพนักงานบริษัทขนส่งสินค้าต่างประเทศหรือเจ้าหน้าที่ศุลกากร ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ติดต่อหลอกลวงผู้เสียหายที่ต้องการรับพัสดุ ให้ชำระค่าภาษีศุลกากรหรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการจัดส่งพัสดุทางบัญชีเงินฝากธนาคารที่คนร้ายจัดเตรียมไว้ ซึ่งมีทั้งบัญชีเงินฝากธนาคารในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าว กลุ่มคนร้ายจะทำการเบิกถอนเงินออกจากบัญชีโดยทันที พฤติการณ์ในการกระทำความผิดดังกล่าวของกลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกมจึงมีลักษณะเป็นการรวมตัวกันของคณะบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ร่วมกันกระทำการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และฉ้อโกงประชาชนรวมถึงผู้เสียหายโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ซึ่งเป็นความผิดอาญาที่กฎหมายกำหนดโทษจำคุกขั้นสูงตั้งแต่สี่ปีขึ้นไปหรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ทางการเงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์ทางวัตถุอย่างอื่นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม และกระทำในเขตแดนของรัฐมากกว่าหนึ่งรัฐ หรือที่กระทำในรัฐหนึ่งแต่การตระเตรียม การวางแผน การสั่งการ การสนับสนุน หรือการควบคุมการกระทำความผิดได้กระทำในอีกรัฐหนึ่ง กลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกมจึงเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตามบทนิยามในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 และผู้ซึ่งเป็นสมาชิก เครือข่ายดำเนินงาน หรือผู้ที่สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดดังกล่าวอันเกี่ยวข้องกับแก๊งโรแมนซ์สแกม หรือผู้ที่มีส่วนร่วมกระทำการใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการของแก๊งโรแมนซ์สแกม โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรม หรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดดังกล่าวของแก๊งโรแมนซ์สแกม ย่อมมีความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตามมาตรา 5 ด้วย ได้ความจากผู้เสียหายว่า กลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกมหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารหลายบัญชี ซึ่งมีบัญชีเงินฝากธนาคาร ท. ชื่อบัญชีจำเลยรวมอยู่ด้วย ผู้เสียหายพยายามโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากดังกล่าวแล้ว แต่ธนาคารแจ้งว่าไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยดังกล่าวได้ จนกระทั่งกลุ่มคนร้ายเปลี่ยนให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ก. ชื่อบัญชีนางสาวอรณิชา จึงสามารถโอนเงินชำระค่าภาษีศุลกากรได้รวม 2 ครั้ง เป็นเงิน 160,000 บาท และ 400,000 บาท และมีการโอนเงินชำระค่าประกันความปลอดภัยในการขนส่งอีก 1,000,000 บาท เข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ร. ชื่อบัญชี นางสาวกัญฐมณี ตามที่ถูกหลอกลวง และได้ความจากพันตำรวจเอกสราวุธกับร้อยตำรวจเอกเดชว่า กลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกมที่หลอกลวงผู้เสียหายเป็นเครือข่ายเดียวกับกลุ่มคนร้ายที่หลอกลวงนางนงลักษณ์และนางประภา โดยกลุ่มคนร้ายวางแผนและแบ่งหน้าที่กันกระทำความผิดเชื่อมโยงในหลายพื้นที่ และมีการสั่งการจากประเทศมาเลเซีย ในการจัดหาเพื่อให้ได้มาซึ่งบัญชีเงินฝากธนาคารสำหรับรับโอนเงินจากผู้ถูกหลอกลวงส่วนมากจะมีคนไทยทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร โดยได้รับค่าตอบแทนในการรับจ้างเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร บัญชีละ 1,500 ถึง 2,000 บาท สมาชิกของแก๊งโรแมนซ์สแกมเท่าที่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้มี 18 คน ซึ่งมีจำเลยรวมอยู่ด้วย โดยจำเลยทำหน้าที่เปิดบัญชีธนาคารให้กลุ่มคนร้ายนำไปใช้รับโอนเงินจากผู้ถูกหลอกลวง ชั้นสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาแก่จำเลยว่า ร่วมกันกระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จำเลยให้การปฏิเสธ ดังนี้ ตามทางนำสืบของโจทก์ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในการหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินให้แก๊งโรแมนซ์สแกม จำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างบัญชีผู้ใช้งานและการใช้งานบัญชีชื่อนายเล็ก เพื่อพูดคุยสนทนาทางข้อความในแอปพลิเคชัน TAN TAN และแอปพลิเคชันไลน์กับผู้เสียหาย รวมถึงการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัท พ. เพื่อแจ้งบัญชีเงินฝากธนาคารให้ผู้เสียหายโอนเงิน คงได้ความเพียงว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องในพฤติการณ์ดังกล่าวเพราะมีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคาร ท. ที่กลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกมแจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินเท่านั้น ซึ่งยังไม่อาจฟังได้ว่าจำเลยเป็นสมาชิกหรือเป็นเครือข่ายดำเนินงาน สมคบกันเพื่อกระทำความผิด หรือมีส่วนร่วมกระทำการใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการของแก๊งโรแมนซ์สแกมดังกล่าวตามฟ้อง แต่ข้อเท็จจริงได้ความตามบันทึกคำให้การของจำเลยว่า นอกจากจำเลยเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคาร ท. แล้ว จำเลยยังเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคาร อ. ซึ่งถูกนำไปใช้รับโอนเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้อื่น โดยมีการนำบัญชีเงินฝากธนาคารออมสินของจำเลยไปใช้รับโอนเงินจากผู้ถูกหลอกลวง 15,000 บาท รับโอนเงินจากผู้ที่ถูกชาวต่างชาติหลอกลวง 35,000 บาท และรับโอนเงินจากการหลอกลวงขายเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา 30,000 บาท ส่วนบัญชีเงินฝากธนาคาร ท. ของจำเลยที่กลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกมนำไปใช้รับโอนเงินในการหลอกลวงผู้เสียหายนั้น พบว่าถูกนำไปใช้ในการรับโอนเงินจากการหลอกลวงขายของออนไลน์ด้วย พฤติการณ์ที่มีการนำบัญชีเงินฝากธนาคารต่าง ๆ ของจำเลยไปใช้รับโอนเงินจากการหลอกลวงบุคคลอื่นมาแล้วหลายครั้งเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารต่าง ๆ ของจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่กลุ่มคนร้ายนำสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของจำเลยไปใช้รับโอนเงินจากผู้ถูกหลอกลวงรวมถึงผู้เสียหาย แม้จำเลยจะกล่าวอ้างว่าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าวสูญหายไป เพราะจำเลยเก็บรักษาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าวไว้ในรถยนต์ จำเลยให้นายสุรศักดิ์ เพื่อนของจำเลยยืมรถยนต์ไป ทำนองว่านายสุรศักดิ์อาจเป็นผู้เอาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าวไป หรือมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีส่วนรับผิดชอบที่สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของจำเลยสูญหาย แต่จำเลยกลับเบิกความตอบคำถามติงว่า จำเลยเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร ท. โดยประสงค์จะให้นายสุรศักดิ์นำไปใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินอยู่แล้ว เนื่องจากนายสุรศักดิ์ไม่อาจเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารเองได้ เพราะมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ฉะนั้น ที่จำเลยอ้างว่าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าวสูญหายเพราะเก็บรักษาไว้ในรถ และให้นายสุรศักดิ์ยืมรถไปใช้จึงไม่น่าเชื่อถือ แต่น่าเชื่อว่าเหตุที่สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ท. ของจำเลยไปอยู่ในความครอบครองของกลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกม เป็นเพราะจำเลยเป็นผู้มอบสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าวและบัตรเดบิตให้แก่บุคคลอื่นเพื่อนำไปใช้ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ขณะเกิดเหตุจำเลยอายุ 30 ปี และประกอบอาชีพการงานแล้ว จำเลยย่อมต้องทราบว่าการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารแล้วมอบหรือยินยอมให้บุคคลอื่นนำบัญชีเงินฝากธนาคารกับบัตรเดบิตของตนไป อาจเป็นช่องทางให้กลุ่มคนร้ายได้ไปซึ่งสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าว แล้วนำไปใช้ในการกระทำความผิด โดยหลอกลวงผู้อื่นให้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ทั้งกรณีของจำเลยเป็นการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารควบคู่กับการขอใช้บัตรเดบิต ซึ่งทำให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินต่อไปเป็นทอด ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่จำเลยกลับมิได้ดูแลเก็บรักษาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร บัตรเดบิต รหัสการใช้บัตร รวมถึงตรวจสอบความถูกต้องของการทำธุรกรรมทางการเงิน และดำเนินการแก้ไขเมื่อพบความผิดปกติเพื่อป้องกันความเสียหาย โดยเฉพาะเมื่อปรากฏว่าจำเลยได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาและได้รับแจ้งจากเจ้าพนักงานตำรวจว่ามีการนำสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของจำเลยไปใช้กระทำความผิดหลายครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างยิ่ง เพราะอาจเป็นมูลเหตุให้จำเลยถูกดำเนินคดีอาญาต้องโทษถึงจำคุก แต่จำเลยกลับมิได้ร้องทุกข์เพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ทั้งที่จำเลยทราบว่าผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติการณ์การกระทำความผิดดังกล่าวคือนายสุรศักดิ์ นอกจากนี้ยังปรากฏว่าจำเลยตกลงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ถูกหลอกลวงในคดีของสถานีตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ดเป็นเงิน 15,000 บาท โดยวิธีผ่อนชำระ เพื่อมิให้ตนถูกดำเนินคดี อันเป็นการผิดปกติวิสัยของผู้ที่พบว่าบัญชีเงินฝากธนาคารของตนถูกคนร้ายลักไปก่อเหตุโดยที่ตนไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้อง จากพฤติการณ์ดังกล่าวน่าเชื่อว่าจำเลยเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร ท. โดยมิได้มีเจตนาเพื่อจะใช้ทำธุรกรรมทางการเงินของตนตามปกติ แต่เป็นการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อประสงค์จะมอบบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่นนำไปใช้ หรือยินยอมให้มีการนำบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าวไปใช้ในการกระทำความผิดของกลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกม เมื่อต่อมากลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกมนำบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าวไปใช้รับโอนเงินที่หลอกลวงผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่สมาชิก หรือเครือข่ายดำเนินงาน หรือผู้ที่สมคบกันเพื่อกระทำความผิด หรือผู้มีส่วนร่วมกันกระทำการใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในกิจกรรมหรือการดำเนินการของกลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกม แต่เมื่อโจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยช่วยเหลือในการกระทำความผิดของกลุ่มคนร้ายแก๊งโรแมนซ์สแกมดังกล่าวตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 มาตรา 5 (4) มาด้วย จึงไม่อาจลงโทษจำเลยฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเพราะเหตุนี้ได้ แต่การกระทำของจำเลยถือเป็นการช่วยเหลือในการกระทำความผิด หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด จำเลยจึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติอยู่ด้วย แม้คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลย จะเป็นพยานบอกเล่า แต่เมื่อพิจารณาสภาพ ลักษณะ แหล่งที่มา และข้อเท็จจริงแวดล้อมแล้ว น่าเชื่อว่าจะพิสูจน์ความจริงได้ จึงไม่ต้องห้ามในการรับฟังเป็นพยานหลักฐานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 226/3 วรรคสอง (1) ที่จำเลยนำสืบต่อสู้ว่า สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ท. รวมถึงสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารอื่น ๆ บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเดบิตที่เก็บไว้ในรถยนต์ของจำเลยสูญหายไประหว่างที่จำเลยให้นายสุรศักดิ์ยืมรถยนต์ไปใช้นั้น เป็นการกล่าวอ้างเพียงลอย ๆ โดยไม่มีพยานหลักฐานมาสนับสนุน ทำให้ไม่มีน้ำหนักรับฟัง แม้โจทก์ฟ้องและมีคำขอท้ายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเป็นตัวการร่วมกระทำความผิด เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดซึ่งแตกต่างจากข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องก็ตาม แต่ข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่ในข้อสาระสำคัญและทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ ศาลย่อมลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้สนับสนุนตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง ประกอบมาตรา 215 และ 225 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายกฟ้องมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย

พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดฐานสนับสนุนการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 มาตรา 5 (3), 25 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 จำคุก 2 ปี 8 เดือน คำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 9 เดือน 10 วัน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.3798/2566

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE