คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2522
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 107, 545
สัญญาเช่ามีว่าทรัพย์ใด ๆ ที่ผู้เช่าดัดแปลงต่อเติมลงในที่เช่า ตกเป็นของผู้ให้เช่าทันที ข้อสัญญานี้ผูกพันผู้เช่าช่วงด้วย ทรัพย์ที่ต่อเติมนี้หมายความถึงการกระทำที่มาเป็นส่วนควบ เครื่องปรับอากาศที่ติดเข้ากับอาคารที่เช่า ไม่เป็นสารสำคัญในความเป็นอยู่ของอาคาร อันไม่อาจแยกออกได้ นอกจากทำให้อาคารเสียรูปทรง ไม่เป็นส่วนควบ ไม่ตกเป็นของผู้ให้เช่า
จำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ ปัญหาว่าทรัพย์สิ่งใดบ้างต้องคืนแก่โจทก์ โดยเป็นทรัพย์ของผู้ที่ให้เช่าอาคารซึ่งโจทก์เช่าช่วงมาอีกทอดหนึ่ง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลย ให้จำเลยส่งมอบทรัพย์สินตามบัญชีท้ายฟ้องแก่โจทก์ ให้ใช้ค่าเสียหายวันละ 500 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ส่งมอบทรัพย์สินบางรายการมีเครื่องปรับอากาศด้วย โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "มีประเด็นเฉพาะทรัพย์อันดับ 1,2 เป็นของบริษัทบูรพาสากลเศรษฐกิจ จำกัด หรือไม่ ซึ่งเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวนายโปะโปยพยานโจทก์เบิกความว่า เมื่อทำสัญญาเช่าห้องอาหารนวลศรีจากบริษัทนวลศรี จำกัด นั้น บริษัทนวลศรี จำกัด เช่ามาจากบริษัทบูรพาสากลเศรษฐกิจ จำกัด อีกต่อหนึ่ง ฟังได้ว่านายโปะโปยรู้ถึงข้อสัญญาเช่าระหว่างบริษัทนวลศรี จำกัด กับบริษัทบูรพาสากลเศรษฐกิจ จำกัด ตามเอกสาร ล.13แล้ว และสัญญาดังกล่าวมีข้อสัญญาระบุว่าทรัพย์สินใด ๆ ที่ผู้เช่าดัดแปลงต่อเติมปรับปรุงปลูกสร้างลงในสถานที่เช่าตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าทันที ดังนั้นเมื่อโจทก์เช่าภัตตาคารนวลศรีดำเนินกิจการย่อมเป็นการสวมสิทธิของบริษัทนวลศรี จำกัด ผู้เช่าเดิมโจทก์จึงต้องอยู่ในข้อบังคับแห่งสัญญาระหว่างบริษัทนวลศรี จำกัด กับบริษัทบูรพาสากลเศรษฐกิจ จำกัด ด้วย ทั้งนี้ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1166-1168/2504 ระหว่างนางจันทร์เครือ จุลกะสังคะ โจทก์ นายตั้งหรือตงเฮง แซ่ตั้ง จำเลย ฯลฯ อย่างไรก็ดีข้อสัญญาที่ว่าทรัพย์สินใด ๆ ที่ผู้เช่าดัดแปลงต่อเติมปรับปรุงปลูกสร้างลงในสถานที่เช่า ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าทันทีนั้น ต้องหมายถึงการกระทำที่มาเป็นส่วนควบของทรัพย์ประธานมิใช่ว่าสังหาริมทรัพย์ใด ๆ ที่ตกเข้ามาอยู่ในที่เช่าจะเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าทั้งหมด ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 154/2494 ระหว่างนายทองหรือวี หงศ์ลดารมภ์ โจทก์ นายหมาจั้ว แซ่เรียว จำเลย ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยนำสืบแต่เพียงว่าเครื่องปรับอากาศที่พิพาทเป็นทรัพย์ที่ติดตัวอาคาร จำเลยไม่ได้นำสืบว่าเป็นสารสำคัญในความเป็นอยู่ของตัวอาคาร และไม่อาจจะแยกจากกันได้นอกจากจะทำลายหรือทำบุบสลายหรือทำให้ตัวอาคารเปลี่ยนแปลงรูปทรงไป จึงยังฟังไม่ได้ว่าเครื่องปรับอากาศดังกล่าวเป็นส่วนควบของสถานที่เช่า เครื่องปรับอากาศที่พิพาทจึงไม่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทบูรพาสากลเศรษฐกิจ จำกัด ตามที่จำเลยฎีกา"
พิพากษาแก้เฉพาะทรัพย์บางรายการ นอกจากเครื่องปรับอากาศ กับแก้จำนวนค่าเสียหายบางส่วน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - บริษัทพ พัฒนาสากล จำเลย - นางนวลศรี ดวงอุดม กับพวก
ชื่อองค์คณะ ไพโรจน์ ไวกาสี ชุ่ม สุนทรธัย พิทยา มงคล
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan