คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2518
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 428, 432
จำเลยทั้งสามกับ จ.จ้างเหมาให้ ฮ.สร้างตึกแถวให้คนละห้อง โดยต่างคนต่างจ้างและแยกกันทำสัญญาคนละฉบับ ฮ.ตอกเสาเข็มเพื่อก่อสร้างตึกแถวดังกล่าว ทำให้ตึกของโจทก์ซึ่งอยู่ในที่ข้างเคียงสั่นสะเทือนและแตกร้าวเมื่อจำเลยเป็นผู้เลือกหาผู้รับจ้าง และการก่อสร้างก็ต้องเป็นไปตามการงานที่จำเลยสั่งให้ทำตามข้อบังคับในสัญญาจ้าง จำเลยจึงต้องรับผิดเพื่อความเสียหายนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 428 แต่เมื่อโจทก์ไม่ได้ฟ้อง จ. ด้วย ศาลย่อมให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดเพียง 3 ใน 4 ของจำนวนค่าเสียหาย
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2511 จำเลยทั้ง 3 ได้ทำการปลูกตึกแถว 5 ชั้น รวม 4 ห้องในที่ดินของจำเลยซึ่งอยู่ติดต่อกับที่ดินโจทก์ในการก่อสร้างจำเลยใช้เสาเข็มขนาดใหญ่ตอกชิดตัวตึกแถวของโจทก์ทำให้ตึกแถวของโจทก์สั่นสะเทือนและเกิดรอยแตกร้าวหลายแห่ง ต้องเสียค่าซ่อมแซมเป็นเงิน 60,000 บาท การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นการละเมิด ขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสามให้การว่า ตึกแถวของโจทก์เป็นตึกเก่าจึงเกิดรอยแตกร้าวขึ้นจำเลยทั้งสามและบุคคลภายนอกอีกคนหนึ่งจ้างเหมานายเฮ่าก๊กเป็นผู้ก่อสร้าง แต่แยกกันจ้างเหมาจำเลยไม่ต้องรับผิด ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมโจทก์ไม่เสียหายดังฟ้อง ฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยทั้งสามใช้ค่าเสียหายให้โจทก์30,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การตอกเสาเข็มของจำเลยเป็นเหตุให้ตึกแถวของโจทก์แตกร้าว และโจทก์เพิ่งทราบการละเมิดเมื่อได้รับคำร้องของผู้เช่าตึกของโจทก์ว่าเจ้าของที่ดินข้างเคียงตอกเสาเข็ม ทำให้ตึกของโจทก์แตกร้าว และโจทก์ฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่ทราบ คดีโจทก์ย่อมไม่ขาดอายุความ
ปัญหาที่ว่า จำเลยจ้างเหมานายเฮ่าก๊ก แซ่เฮ้ง ก่อสร้างตึกแถวของจำเลย จำเลยจะต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 428หรือไม่นั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้จำเลยจะจ้างเหมานายเฮ่าก๊ก แซ่เฮ้งเป็นผู้ก่อสร้างตึกแถวของจำเลยก็ดีแต่เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ความเสียหายของตึกแถวของโจทก์เกิดจากการตอกเสาเข็มเนื่องในการก่อสร้างตึกแถวของจำเลย จำเลยเป็นผู้เลือกหาผู้รับจ้าง การก่อสร้างต้องเป็นไปตามการงานที่จำเลยสั่งให้ทำตามข้อบังคับในสัญญาจ้าง จำเลยทั้งสามจึงต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 428
ในเรื่องจำนวนเงินค่าเสียหายที่ศาลอุทธรณ์กำหนดให้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการสมควรแก่พฤติการณ์ในคดีแล้ว ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ให้จำเลยรับผิดในส่วนของนางจินตนาซึ่งโจทก์ไม่ได้ฟ้องเป็นการไม่ชอบนั้นศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยกับนางจินตนาต่างคนต่างจ้างเหมานายเฮ่าก๊กก่อสร้างตึกแถวคนละห้อง และโจทก์ไม่ได้ฟ้องนางจินตนา จึงเห็นสมควรให้แบ่งความรับผิดออกจากส่วนที่โจทก์ได้รับความเสียหาย 30,000 บาทนั้น โดยให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดเป็นเงิน 22,500 บาท
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสามใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงิน22,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนชำระเสร็จนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยพลตรีหม่อมหลวงทวีวงศ์ถวัลย์ศักดิ์ ผู้อำนวยการ เป็นผู้แทน จำเลย - นางวันทนีย์ ชุณหเสรีชัย กับพวก
ชื่อองค์คณะ สุมิตร ฟักทองพรรณ วิทูร เทพพิทักษ์ ชลอ จามรมาน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan