สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3676/2564

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3676/2564

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 22, 91 (2)

แม้การกระทำความผิดของจำเลยในคดีนี้กับคดีอื่น ๆ ที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ จะเป็นการกระทำด้วยเจตนาเหมือนกัน และมีการดำเนินการในลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่จำเลยกระทำต่อผู้เสียหายต่างรายกัน ทั้งการกระทำความผิดเกิดขึ้นคนละสถานที่และต่างวันเวลากัน คดีแต่ละสำนวนจึงมิได้เกี่ยวพันกัน แม้โดยรูปคดีอาจพิจารณาไปด้วยกันได้ก็เป็นเพราะจำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกันเพื่อความสะดวกในการพิจารณาพิพากษาคดีเท่านั้น เมื่อศาลมีคำพิพากษาแต่ละคดีและให้นับโทษต่อกันตาม ป.อ. มาตรา 22 แล้ว มีกำหนดระยะเวลาจำคุกเกินกว่า 20 ปี ก็ย่อมพิพากษาให้บังคับเช่นนี้ได้ หาได้อยู่ในบังคับตาม ป.อ. มาตรา 91 (2) ไม่

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 91 ตรี ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 92, 341, 343 ให้จำเลยคืนเงิน 1,101,900 บาท ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ด เพิ่มโทษกึ่งหนึ่งตามกฎหมาย และนับโทษต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 619/2562 ของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.3292/2561, อ.3564/2561, อ.656/2562, อ.658/2562, อ.659/2562, อ.661/2562, อ.662/2562 และคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1617/2562 ของศาลชั้นต้น

จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษและนับโทษต่อ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 91 ตรี พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 วรรคแรก การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ความผิดฐานหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ ฐานฉ้อโกงประชาชน และฐานนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ ตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 91 ตรี ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 11 กระทง เป็นจำคุก 33 ปี ส่วนที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษจำคุกจำเลยนั้น เนื่องจากในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1022/2557 ของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 1 ปี จำเลยหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา และศาลออกหมายจับจำเลยเพื่อบังคับโทษตามคำพิพากษา โดยหมายจับมีอายุความ 5 ปี นับแต่วันที่ 28 มกราคม 2557 ขณะนี้พ้นกำหนดอายุความแล้ว ไม่อาจบังคับโทษจำเลยในคดีดังกล่าวได้อีก ต้องถือว่าจำเลยยังไม่เคยได้รับโทษหรือพ้นโทษในคดีก่อน จึงไม่อาจเพิ่มโทษจำเลยในคดีนี้ตามที่โจทก์ขอ จึงให้ยกคำขอในส่วนนี้ จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกรวม 11 ปี 66 เดือน กับให้จำเลยคืนเงินจำนวน 1,101,900 บาท แก่ผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ด นับโทษของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 619/2562 ของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.3292/2561 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.3564/2561 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.656/2562 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.658/2562 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.659/2562 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.661/2562 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.662/2562 คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1617/2562 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.3468/2562 ของศาลชั้นต้น

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า การนับโทษในคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีอื่นตามที่โจทก์ขอ จะนับโทษต่อได้ไม่เกิน 20 ปี หรือไม่ เห็นว่า แม้การกระทำความผิดของจำเลยในคดีนี้กับคดีอื่น ๆ ที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ จะเป็นการกระทำด้วยเจตนาเหมือนกัน และมีการดำเนินการในลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่จำเลยกระทำต่อผู้เสียหายต่างรายกัน ทั้งการกระทำความผิดเกิดขึ้นคนละสถานที่และต่างวันเวลากัน คดีแต่ละสำนวนจึงมิได้เกี่ยวพันกัน แม้โดยรูปคดีอาจพิจารณาไปด้วยกันได้ก็เป็นเพราะจำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกันเพื่อความสะดวกในการพิจารณาพิพากษาคดีเท่านั้น เมื่อศาลมีคำพิพากษาแต่ละคดีและให้นับโทษต่อกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 แล้ว มีกำหนดระยะเวลาจำคุกเกินกว่า 20 ปี ก็ย่อมพิพากษาให้บังคับเช่นนี้ได้ หาได้อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2) ไม่ ดังที่จำเลยฎีกาแต่อย่างใด ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.1474/2564

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด จำเลย - นาย ช.

ชื่อองค์คณะ สุรพล เอี่ยมอธิคม วัฒนา วิทยกุล ศิริชัย ศิริชื่นวิจิตร

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลอาญา - นายธนทร ผดุงธิติฐ์ ศาลชั้นต้น - นางวราภรณ์ สุระพัฒน์พิชัย

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE