สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3670/2567

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3670/2567

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 23

แม้ตามคำร้องขอขยายระยะเวลาของโจทก์จะอ้างเหตุผลอันไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษตามที่ ป.วิ.พ. มาตรา 23 บัญญัติไว้ แต่เมื่อศาลเห็นว่า หากไม่ขยายให้แล้วอาจเสียความเป็นธรรมไป ศาลย่อมมีอำนาจทั่ว ๆ ไปที่จะขยายเวลาให้ได้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมอันเป็นเรื่องการใช้อำนาจที่มีอยู่ทั่วไปของศาล และเมื่อศาลเห็นควรขยายเวลาให้แล้วก็มีอำนาจกำหนดเวลาที่ขยายให้ได้อันเป็นอำนาจทั่ว ๆ ไปเช่นกัน

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 550,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 280,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563) เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2564 และอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 10,000 บาท เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี และสำหรับค่าขึ้นศาลที่โจทก์ได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีโดยได้รับยกเว้นนั้น ให้จำเลยนำมาชำระต่อศาลในนามโจทก์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

โจทก์ขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต

โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง จำเลยอุทธรณ์คำพิพากษา

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับว่า อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่โจทก์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 นี้ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ในส่วนของโจทก์ให้เป็นพับ

จำเลยฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 3 อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่โจทก์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ชอบหรือไม่ โดยจำเลยฎีกาว่า เหตุผลตามคำร้องขอขยายเวลาของโจทก์เป็นการอ้างเหตุผลอันเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษ หากศาลจะมีคำสั่งให้ขยายเวลาจะต้องมีกฎหมายรองรับทดแทนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 และอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้ขอให้ขยายเวลาเป็นเวลาเท่าใด จึงฟังไม่ขึ้น นั้น เห็นว่า การขอขยายระยะเวลา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 จะต้องมีพฤติการณ์พิเศษ อย่างไรก็ตาม แม้ตามคำร้องขอขยายระยะเวลาของโจทก์จะอ้างเหตุผลและเรื่องส่วนตัวของโจทก์อันไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 บัญญัติไว้ก็ตาม แต่เมื่อศาลเห็นว่า โจทก์ยังประสงค์ที่จะอุทธรณ์และเพิ่งขอขยายเวลาอุทธรณ์เป็นครั้งที่ 2 โดยไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์ประวิงคดี หากไม่ขยายให้แล้วอาจเสียความเป็นธรรมไป ศาลย่อมมีอำนาจทั่ว ๆ ไปที่จะขยายเวลาให้ได้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมอันเป็นเรื่องการใช้อำนาจที่มีอยู่ทั่วไปของศาล และเมื่อศาลเห็นควรขยายเวลาให้แล้วก็มีอำนาจกำหนดเวลาที่ขยายให้ได้อันเป็นอำนาจทั่ว ๆ ไปเช่นกัน ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาให้ขยายเวลาและกำหนดเวลาที่ขยายให้นั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา พ.71/2567

แหล่งที่มา หนังสือคำพิพากษาศาลฎีกา

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE