คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 339/2518
พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ม. 38, 74
จำเลยเป็นคนงานของบริษัทวิสาหกิจสินแร่สยามอเมริกัน จำกัด ได้เบิกและขนวัตถุระเบิดจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทไประเบิดแร่ในเขตสัมปทานของบริษัทตามจำนวนที่ระบุไว้ใน เอกสาร ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้รับอนุญาตให้มีและใช้ระเบิดได้ทั้งจำเลยมีใบคู่มือให้ควบคุมการขนของกลางขึ้นเขาศูนย์ และมีบัตรอนุญาตให้ผ่านเข้าบริเวณเขาศูนย์เขตประทานบัตรได้ดังนี้จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีวัตถุประสงค์ระเบิดของกลางไว้ในความครอบครองอันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีสายชนวนระเบิดอันเป็นเชื้อประทุดินดำจำนวน ๕ ขด ดินระเบิดชนิดดีเอ็ม ๓๕ ห่อ ดินระเบิดเม็ดสาคูแอมโมเนี่ยมไนเตรทจำนวน ๕ กิโลกรัมอันเป็นวัตถุระเบิดตามกฎหมายไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยของกลางดังกล่าว ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๓๘, ๗๔ ริบของกลาง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๓๘ ๗๔ ให้จำคุก ๒ ปี ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ของกลางคืนเจ้าของไป
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาแล้วข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้ตรงเส้นทางขึ้นเขาศูนย์พร้อมด้วยดินระเบิด ชนิดดีเอ็ม ดินระเบิดชนิดเม็ดสาคูและสายชนวนตามฟ้องเป็นของกลาง จำเลยแสดงขอเบิกและควบคุมวัตถุของกลางของบริษัทวิสาหกิจสินแร่สยามอเมริกัน จำกัด เป็นเอกสารคุ้มครองการนำไปแต่เจ้าพนักงานตำรวจอ้างเหตุจับกุมว่าจำเลยจะนำไประเบิดแร่ที่หลุมส่วนตัวนอกเขต สัมปทาน ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีว่าจำเลยมีวัตถุระเบิดของกลางไว้ในความครอบครองเป็นความผิดตามกฎหมายหรือไม่
พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่ามีหลุ่มแร่ของจำเลยอยู่นอกเขตประทานบัตรแต่กลับปรากฏตามที่พลตำรวจปรีชา และพลตำรวจสุรินทร์เบิกความรับว่า เมื่อตรวจพบของกลางจำเลยได้แสดงใบขอเบิกและควบคุมวัตถุระเบิดให้พยานโจทก์ทั้งสองดู เอกสารดังกล่าวมีข้อความแสดงพอให้ทราบได้ว่าจำเลยเป็นคนงานของบริษัทวิสาหกิจสินแร่สยามอเมริกัน จำกัด ซึ่งได้เบิกและขนวัตถุระเบิดไประเบิดแร่ในเขตสัมปทานของบริษัทตามจำนวนที่ระบุในเอกสาร ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้รับอนุญาตให้มีและใช้ระเบิดได้ ทั้งจำเลยก็นำสืบฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนงานของบริษัทดังกล่าว จำเลยได้เบิกวัตถุระเบิดของกลางจากเจ้าหน้าที่ของบริษัท มีใบคู่มือให้ควบคุมการขนของกลางขึ้นเขาศูนย์ และมีบัตรอนุญาตให้ผ่านเข้าบริเวณเขาศูนย์เขตประทานบัตรได้ ดังนี้จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีวัตถุระเบิดของกลางไว้ในความครอบครองอันจะเป็นความผิดตามกฎหมายที่โจทก์ฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช ล. - นางราย ธรฤทธิ์
ชื่อองค์คณะ สนิท บริรักษ์ สัญชัย สัจจวานิช แผ้ว ศิวะบวร
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช - นายประสิทธิ์ สุบรรณ์ ศาลอุทธรณ์ - นายสุจริต ถาวรสุข