สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3360/2530

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3360/2530

พระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524 ม. 37, 66

ผู้ร้องบอกเลิกการเช่านาพิพาทซึ่งผู้เช่าได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 แต่คณะกรรมการควบคุมการเช่านาได้มีมติยับยั้งการบอกเลิกการเช่ามีกำหนดสองปี มีผลให้ผู้เช่ามีสิทธิทำนาต่อไปถึงปี พ.ศ.2525ระหว่างนั้นพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2524 และ มาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติฉบับใหม่ให้ถือว่าการเช่านาที่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 เป็นการเช่าที่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติฉบับใหม่ต่อไป ดังนั้นสิทธิการเช่านาพิพาทอันเกิดจากการใช้สิทธิยับยั้งการบอกเลิกการเช่าจึงยังไม่สิ้นสุดและอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524ด้วย คำวินิจฉัยของคณะกรรมการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบลและประจำจังหวัดให้ยับยั้งการบอกเลิกการเช่านาพิพาทอีกเป็นครั้งที่สองตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่ จึงชอบด้วยกฎหมาย.

เนื้อหาฉบับเต็ม

ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการควบคุมการเช่านาจังหวัดลพบุรีว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของที่นาพิพาท เมื่อวันที่7 กุมภาพันธ์ 2522 ผู้ร้องได้บอกเลิกการเช่านาต่อผู้เช่านาเพื่อจะทำนาเอง ผู้เช่านาได้ร้องขอต่อคณะกรรมการควบคุมการเช่านาซึ่งคณะกรรมการ ฯ มีมติให้ยับยั้งการบอกเลิกการเช่านาไว้มีกำหนด 2 ปี ต่อมาวันที่ 23 พฤศจิกายน 2525 ผู้เช่านายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการเช่าที่ดินประจำตำบลเพื่อขอยับยั้งการบอกเลิกการเช่าที่ดินเป็นครั้งที่สอง คณะกรรมการ ฯ มีมติยับยั้งการบอกเลิกไว้อีก 1 ปี ผู้ร้องและผู้เช่านาอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำจังหวัด คณะกรรมการ ฯมีมติให้ยับยั้งการบอกเลิกการเช่านาไว้อีก 2 ปี ซึ่งผู้ร้องเห็นว่าฝ่าฝืนต่อกฎหมายเนื่องจากมีพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 มาตรา 3 ยกเลิกพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 แล้วขอให้ศาลมีคำสั่งกลับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดลพบุรีเสียให้ผู้เช่านาออกไปจากที่นาผู้ร้องด้วย

ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีในฐานะประธานกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดคัดค้านว่า มติของคณะกรรมการ ฯ ที่ยับยั้งการบอกเลิกการเช่านาเป็นครั้งที่สองมีกำหนด 2 ปี นั้นชอบตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 มาตรา 66 ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า สิทธิของผู้เช่านารายพิพาทยังอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 จึงถือว่าอยู่ในบังคับตามมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 คณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดลพบุรี จึงมีสิทธิยับยั้งการบอกเลิกการเช่าครั้งที่สองได้ตามมาตรา 37 ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า สิทธิการเช่านารายพิพาทไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524มาตรา 66 คำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดลพบุรีที่ให้ยับยั้งการบอกเลิกการเช่าครั้งที่สองจึงไม่ชอบ พิพากษากลับ ให้ยกเิลกคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเสีย

ผู้คัดค้านฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้สิทธิการเช่านาพิพาทของผู้เช่าซึ่งเดิมอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 ได้ครบกำหนดเวลาหกปีแล้วตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2523 แต่เมื่อผู้ร้องได้บอกเลิกการเช่านาและคณะกรรมการควบคุมการเช่านาได้มีมติให้ยับยั้งการบอกเลิกการเช่ามีกำหนด 2 ปีอันมีผลให้ผู้เช่ามีสิทธิทำนาต่อไปในปี พ.ศ. 2524 และ 2525 และระหว่างระยะเวลาที่ผู้เช่ายังได้รับสิทธิให้เช่านาทำต่อไปตามผลบังคับแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 ปรากฏว่าพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ0ศ. 2517 ได้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2524 แต่ตามมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติฉบับใหม่ดังกล่าวบัญญัติให้ถือว่าการเช่านารายใดที่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ. 2517 เป็นการเช่านาที่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 ต่อไป ดังนั้น เมื่อปรากฏว่าสิทธิการเช่านาพิพาทของผู้เช่าอันเกิดจากการใช้สิทธิยับยั้งการบอกเลิกการเช่าบังไม่สิ้นสุดลง กรณีจึงต้องถือว่าการเช่านารายพิพาทยังอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 อันมีผลให้การเช่านาพิพาทเป็นการเช่านาที่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติฉบับใหม่ต่อไป คำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบลและจังหวัดที่ให้ยับยั้งการบอกเลิกการเช่านาเป็นครั้งที่สอง จึงชอบด้วยเจตนารมย์แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มาตรา 37ประกอบด้วยมาตรา 66 ที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดลพบุรีที่ยับยั้งการบอกเลิกการเช่านาพิพาทเป็นครั้งที่สองไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาของผู้คัดค้านฟังขึ้น

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นางสาว วิไลวรร ณ พิพัฒน์ จำเลย - ผู้ว่าราชการจังหวัด ลพบุรี

ชื่อองค์คณะ ถาวร ตันตราภรณ์ ชูเชิด รักตะบุตร์ สง่า ศิลปประสิทธิ์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE