สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3227/2540

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3227/2540

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 132, 292

ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาเมื่อปรากฏว่าที่ดินมีโฉนดเฉพาะส่วนเนื้อที่60ไร่20ตารางวาโจทก์ได้ดำเนินการบังคับคดีเสร็จสิ้นลงโดยโอนที่ดินดังกล่าวไปเป็นของโจทก์ตามคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดแล้วศาลฎีกาจึงไม่จำต้องพิจารณาคำร้องของดการบังคับคดีของจำเลยต่อไป

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องมาจากศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 795 เฉพาะส่วนเนื้อที่ 60 ไร่20 ตารางวา แก่โจทก์ทั้งสอง โดยให้โจทก์ทั้งสองชำระเงินค่าที่ดินส่วนที่เหลือจำนวน 1,080,000 บาท แก่จำเลยขณะจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ณ สำนักงานที่ดิน ค่าธรรมเนียมและค่าภาษีในการโอนที่ดินให้หักจากเงินดังกล่าว หากจำเลยไม่ปฏิบัติให้ถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 250,000 บาท โดยให้หักจากเงินค่าที่ดินซึ่งโจทก์ทั้งสองชำระแก่จำเลย หากจำเลยไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทแก่โจทก์ทั้งสองได้โดยปลอดจากภาระติดพันแล้วให้จำเลยคืนเงินมัดจำจำนวน 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2530 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง และให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 20,000 บาทคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกต่อมาจำเลยได้วางเงินมัดจำจำนวน 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยค่าเสียหาย ค่าฤชาธรรมเนียม ค่าทนายความ รวม 812,602.50บาท ต่อศาล เพื่อเป็นการชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ไม่ยอมรับชำระหนี้ดังกล่าวและขอให้บังคับคดี

จำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีอ้างว่า ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ทั้งสองได้โดยปราศจากภาระติดพันเพราะผู้เช่านายังคงทำประโยชน์อยู่โดยการทำนาและอยู่ระหว่างการเจริญเติบโตของต้นข้าว ผู้เช่านาประสงค์จะซื้อที่ดินพิพาทและได้ปลูกบ้านอยู่อาศัยอย่างถาวรแล้วด้วย

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีตามคำร้องมิใช่เหตุที่จะงดการบังคับคดี ยกคำร้อง หมายเรียกให้จำเลยส่งโฉนดที่ดินภายใน7 วัน

จำเลย อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน

จำเลย ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความตามคำแก้ฎีกาของโจทก์ทั้งสองซึ่งจำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้านว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 795เฉพาะส่วนเนื้อที่ 60 ไร่ 20 ตารางวา นั้น โจทก์ทั้งสองได้ดำเนินการบังคับคดีเสร็จสิ้นลงโดยโอนที่ดินดังกล่าวไปเป็นของโจทก์ทั้งสองแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำต้องพิจารณาคำร้องของดการบังคับคดีของจำเลยต่อไป ที่ศาลล่างทั้งสองให้ยกคำร้องขอให้งดการบังคับคดีของจำเลยนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาย ธนัญ ปุณวัฒนวิทย์ กับพวก จำเลย - นาง หนะ บำเพ็ญ

ชื่อองค์คณะ วิเทพ ศิริพากย์ ไพโรจน์ คำอ่อน ชวลิต ศรีสง่า

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE