สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2930/2530

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2930/2530

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 456, 572 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 274, 288

แม้ผู้ร้องทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินพิพาทจาก ส. และชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้วก่อนที่ ส. จะนำที่ดินดังกล่าวมาวางศาลเป็นประกันการชำระหนี้ของจำเลยเพื่อขอทุเลาการบังคับคดี แต่สิทธิของผู้ร้องก็เป็นเพียงบุคคลสิทธิซึ่งหาก ส. ผิดสัญญาเช่าซื้อก็เป็นกรณีที่ผู้ร้องต้องว่ากล่าวบังคับเอากับ ส.เมื่อส. ยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ที่ดินพิพาทจึงยังไม่ตกไปเป็นของผู้ร้องโดยสมบูรณ์ตามกฎหมาย ส. ยังคงเป็นเจ้าของที่ดินอยู่ โจทก์ชนะคดีแล้วยึดที่ดินพิพาทออกขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์ได้ ผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด.

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องมาจากศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน110,000 บาทแก่โจทก์ จำเลยไม่ชำระ ศาลชั้นต้นจึงสั่งยึดทรัพย์ของนายสมชายผู้ค้ำประกันหนี้ที่จำเลยต้องชำระตามหนังสือสัญญาขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างฎีกา เพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ที่ดินห้าแปลงที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดและประกาศขายทอดตลาดไม่ใช่ทรัพย์ของนายสมชาย แต่เป็นที่ดินที่ผู้ร้องเช่าซื้อจากนายสมชายและผู้ร้องชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว ผู้ร้องอยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวเป็นของผู้ร้องก่อนขอให้ปล่อยที่ดินทั้งห้าแปลงที่โจทก์นำยึด

โจทก์ให้การว่า ที่ดินทั้งห้าแปลงนั้นยังมิได้โอนกรรมสิทธิ์เป็นของผู้ร้อง แต่เป็นของนายสมชาย ผู้ร้องไม่มีสิทธิขอให้ปล่อย ขอให้ยกคำร้อง

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยาน และให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดินทั้งห้าแปลงที่นายสมชายนำมาวางศาลเป็นประกันการชำระหนี้ของจำเลยตามหนังสือสัญญาค้ำประกันซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดียึดและประกาศขายทอดตลาดนั้นนายสมชายเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ทุกแปลง คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่า ผู้ร้องมีสิทธิขอให้เพิกถอนการยึดที่ดินทั้งห้าแปลงนั้นหรือไม่ ตามปัญหาดังกล่าวผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องเช่าซื้อที่ดินดังกล่าวจากนายสมชายผู้ค้ำประกัน และชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้วทุกแปลงก่อนนายสมชายนำมาประกันต่อศาล ผู้ร้องอยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นเป็นของผู้ร้องก่อน โจทก์ไม่มีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์นั้น เห็นว่า หากผู้ร้องและนายสมชายทำหนังสือสัญญาเช่าซื้อที่ดินดังกล่าวต่อกัน และผู้ร้องชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้วก่อนนำมาประกันต่อศาล สิทธิของผู้ร้องตามหนังสือสัญญาเช่าซื้อนั้นก็เป็นเพียงบุคคลสิทธิหากนายสมชายผิดสัญญาเช่าซื้อที่ทำไว้ต่อผู้ร้องประการใดก็เป็นกรณีที่ผู้ร้องจะต้องว่ากล่าวบังคับเอากับนายสมชายตามสัญญาเช่าซื้อต่างหากจากคดีนี้ เมื่อนายสมชายยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเช่าซื้อไปเป็นของผู้ร้อง ที่ดินดังกล่าวมิได้ตกเป็นของผู้ร้องโดยสมบูรณ์ตามกฎหมาย นายสมชายยังคงเป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว ดังนี้โจทก์จึงมีสิทธิยึดที่ดินนั้นขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์ได้และคดีไม่จำเป็นต้องสืบพยานกันต่อไปดังที่ผู้ร้องฎีกา ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาย เกียรติศักดิ์ ศักดิ์ สกุล วงศ์ ผู้ร้อง - นาย สม ศักดิ์ อัตตวนิช จำเลย - นาย ไพรัช กสิวัฒน์

ชื่อองค์คณะ ไพรัช วงศ์วัฒนะ ไพจิตร วิเศษโกสิน สมบูรณ์ ฤกษ์สำราญ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE