สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2866/2532

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2866/2532

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 448

จำเลยทั้งสามรับราชการในสังกัดกรมโจทก์ประมาทเลินเล่อให้เรือขุดลอกคลองตักดินจากลำคลองยกข้ามรั้วโรงเรียนเข้าไปเทชิดแนวรั้วด้านใน เป็นเหตุให้แนวรั้วโรงเรียนบางส่วนซึ่งเป็นทรัพย์สินของโจทก์ได้พังลง เมื่อคณะกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดในทางแพ่งทำรายงานว่าจำเลยทั้งสามเป็นผู้กระทำละเมิดต่อโจทก์ อธิบดีกรมโจทก์ลงชื่อรับทราบรายงานดังกล่าวแล้ว แม้จะสั่งสอบสวนเพิ่มเติมก็เพื่อจะทราบว่าผู้รับเหมาซึ่งขุดลอกคลองจะต้องร่วมรับผิดด้วยหรือไม่ต้องถือว่าโจทก์รู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันที่อธิบดีมีคำสั่ง โจทก์ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน คดีของโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคหนึ่ง.

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยทั้งสามรับราชการในสังกัดกรม โจทก์ให้เรือขุดตักดินจากลำคลองยกข้ามรั้วเข้าไปเทชิดแนวรั้วด้านในเป็นเหตุให้แนวรั้วของโรงเรียนบางส่วนซึ่งเป็นทรัพย์สินของโจทก์ได้พังลงไปในคลอง ซึ่งเกิดจากการกระทำโดยประมาทเลินเล่อของจำเลยทั้งสาม โจทก์ต้องสร้างรั้วขึ้นใหม่ ขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 159,534 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยทั้งสามให้การและแก้ไขคำให้การว่า จำเลยทั้งสามไม่ได้กระทำการโดยประมาททำให้ทรัพย์สินของโจทก์เสียหาย ค่าเสียหายอย่างมากไม่เกิน 80,000 บาท และคดีของโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า คดีของโจทก์ขาดอายุความพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่า ตามเอกสารหมาย ล.8นายเดโช สวนานนท์ อธิบดีกรมการฝึกหัดครูได้ลงนามรับทราบรายงานผลการสอบสวนของคณะกรรมการเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2528 และได้ทำความเห็นแย้งให้คณะกรรมการสอบสวนเพิ่มเติมอีก 2 ครั้ง คณะกรรมการได้รายงานผลการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดชอบให้โจทก์ทราบเป็นครั้งสุดท้าเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2528 และอธิบดีกรมการฝึกหัดครู ลงนามรับทราบผลเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2528 ดังนั้นอายุความฟ้องร้อง 1 ปจึงต้องนับตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2528 และครบอายุความ 1 ปี ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2529 การที่โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม2529 คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ตามภาพถ่ายบันทึกข้อความเอกสารหมาย ล.8 คณะกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดชอบทางแพ่งได้รายงานให้อธิบดีกรมการฝึกหัดครูทราบว่า จำเลยทั้งสามเป็นผู้กระทำละเมิดต่อโจทก์ และเป็นผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์เป็นเงินจำนวน 136,500 บาท ปรากฏว่านายเดโช สวนานนท์อธิบดีกรมการฝึกหัดครูลงลายมือชื่อรับทราบรายงานดังกล่าวนั้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2528 แม้จะสั่งสอบสวนเพิ่มเติมก็เพื่อจะทราบว่าผู้รับเหมาซึ่งขุดลอกคลองจะต้องร่วมรับผิดในมูลละเมิดด้วยหรือไม่ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนได้รายงานว่า การที่รั้วของวิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา พังมิใช่ผลโดยตรงจากการขุดลอกคลองผู้กระทำจึงไม่น่าจะต้องมีส่วนรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ตามภาพถ่ายบันทึกข้อความเอกสารหมาย ล.11 และ ล.12 เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2529 ฟ้องของโจทก์จึงพ้นกำหนดหนึ่งปี นับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวจำเลยทั้งสามผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน คดีของโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคหนึ่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - กรม การ ฝึกหัด ครู จำเลย - นาย อารมณ์ เอี๊ยบ เจริญ กับพวก

ชื่อองค์คณะ เจริญ นิลเอสงฆ์ มาโนช เพียรสนอง ประมาณ ชันซื่อ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE