คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2621/2518
พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 ม. 3 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 2 (4), 2 (7), 28, 120, 121 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 904
ส. เป็นบุตร จ. ช่วย จ. ค้าขายอยู่ในร้าน จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินสดชำระหนี้ให้แก่ร้าน ขณะที่จำเลยนำเช็คมาชำระหนี้นั้น จ. และ ส.อยู่พร้อมหน้ากันจำเลยมอบเช็คให้ส.แต่ก่อนที่ส. จะรับเช็คไว้ ส. ได้ให้จ. ตรวจดูเช็คนั้นแล้ว ต่อมาเมื่อเช็คถึงกำหนดจ่ายเงิน ส. ได้ใช้ให้คนนำเช็คไปเบิกเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ดังนี้ถือได้ว่า จ. เจ้าของร้านผู้เป็นเจ้าหนี้เป็นผู้ทรงเช็ค ส. เป็นเพียงผู้เก็บรักษาเช็คไว้แทน จ. เท่านั้น เมื่อ ส. ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คส.ก็ไม่ใช่ผู้เสียหายการที่ส. ไปร้องทุกข์เป็นผู้เสียหายเสียเองจึงไม่ชอบ และพนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้อง (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2518)
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ออกเช็คธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด สาขาเมืองพาน สั่งจ่ายเงิน 91,062 บาท 25 สตางค์ให้แก่นายสุรชัยเพื่อชำระหนี้ค่าสินค้า เมื่อถึงกำหนดวันสั่งจ่ายนายสุรชัยได้นำเช็คไปขึ้นเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินเพราะไม่มีเงินพอจ่าย ทั้งนี้จำเลยออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และออกเช็คให้ใช้เงินจำนวนสูงกว่าเงินในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะออกเช็ค นายสุรชัยผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานเอาคดีขึ้นว่ากล่าวกับจำเลยแล้ว ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จำคุก 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์ว่า นายสุรชัยไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจร้องทุกข์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง และจำเลยไม่ได้กระทำผิดดังฟ้อง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า นายสุรชัยมีอำนาจแจ้งความดำเนินคดีแก่จำเลย โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง แต่คดีน่าเชื่อว่าจำเลยเซ็นชื่อในเช็คโดยไม่ได้ลงวันที่ ไม่มีทางที่จะให้จำเลยทราบได้ว่าจะให้มีการใช้เงินตามเช็คในวันใด ไม่มีผลที่จะลงโทษทางอาญาแก่จำเลย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ร้านจิวเม่งเฮงจริงแล้ววินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า คดีได้ความว่านายสุรชัยเป็นบุตรนายจิวทง ช่วยนายจิวทงค้าขายอยู่ในร้าน จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินสดชำระหนี้ให้แก่ร้านจิวเม่งเฮงขณะที่จำเลยนำเช็คมาชำระหนี้นั้น นายจิวทงและนายสุรชัยอยู่พร้อมหน้ากัน ถึงจำเลยจะมอบเช็คให้นายสุรชัย แต่ก่อนที่นายสุรชัยจะรับเช็คไว้นายสุรชัยก็ได้ให้นายจิวทงตรวจดูเช็คนั้นแล้ว ต่อมาเมื่อเช็คถึงกำหนดจ่ายเงิน นายสุรชัยให้นายสุพัตรนำเช็คไปเบิกเงินและธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน กรณีเช่นนี้ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่มีมติว่า ถือได้ว่านายจิวทงเจ้าของร้านจิวเม่งเฮงผู้เป็นเจ้าหนี้เป็นผู้ทรงเช็ค เช็คฉบับนี้นายสุรชัยเป็นเพียงผู้เก็บรักษาไว้แทนนายจิวทงเท่านั้นเมื่อนายสุรชัยไม่ใช่ผู้ทรงเช็ค นายสุรชัยก็ไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจไปร้องทุกข์เป็นผู้เสียหายเอง การร้องทุกข์จึงไม่ชอบ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดเชียงราย จำเลย - นายตี๋ หรือจำรัส ไชยสวัสดิ์
ชื่อองค์คณะ อุดม ทันด่วน ชลอ จามรมาน ชุ่ม สุนทรธัย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan