สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2561/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2561/2525

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 448 พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517

ครั้งแรกคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำตำบลมีคำวินิจฉัยว่า โจทก์นำนาพิพาทไปให้บุคคลอื่นเช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลย จำเลยจึงมีสิทธิบอกเลิกไม่ให้โจทก์เช่านาพิพาทได้ตามมาตรา 32(2) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 โจทก์อุทธรณ์คำวินิจฉัยดังกล่าวต่อคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำจังหวัดตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา มาตรา 43 ดังนั้นการบอกเลิกการเช่านาตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการฯประจำตำบลยังไม่มีผลใช้บังคับได้ในทันที เมื่อจำเลยเข้าไปทำนาพิพาทจึงเป็นการละเมิดต่อสิทธิการเข้าทำนาพิพาทของโจทก์ อายุความจึงต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 บัญญัติไว้ อายุความมิได้นับเริ่มตั้งแต่วันที่นายอำเภอมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทราบถึงคำวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ ประจำจังหวัดว่า จำเลยไม่มีสิทธิบอกเลิกการเช่านาพิพาท

เนื้อหาฉบับเต็ม

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้องศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ ให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ในปัญหาฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่นั้น เห็นว่าในครั้งแรกที่คณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำตำบลหนองแขมได้มีคำวินิจฉัยว่าโจทก์นำนาพิพาทไปให้บุคคลอื่นเช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลย จำเลยจึงมีสิทธิบอกเลิกไม่ให้โจทก์เช่านาพิพาทได้ตามมาตรา 32(2) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 และโจทก์ได้อุทธรณ์คำวินิจฉัยดังกล่าวต่อคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำจังหวัดสระบุรีภายในกำหนดสามสิบวันตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 มาตรา 43 ดังนั้นการบอกเลิกการเช่านาตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำตำบลหนองแขมดังกล่าวยังไม่มีผลใช้บังคับได้ในทันที เมื่อจำเลยเข้าไปทำนาพิพาทจึงเป็นการละเมิดต่อสิทธิการเข้าทำนาพิพาทของโจทก์ อายุความจึงต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 บัญญัติไว้ในกรณีนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์รู้ถึงการละเมิดที่จำเลยเข้าทำนาพิพาทและรู้ว่าจำเลยเป็นผู้ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ตั้งแต่ประมาณเดือนพฤษภาคม 2521 เมื่อนับถึงวันที่โจทก์ฟ้องจำเลยคือวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2523 เป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี คดีของโจทก์จึงขาดอายุความ อายุความมิได้นับเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2522 เพราะในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2522 เป็นวันที่นายอำเภอหนองแคได้มีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทราบถึงคำวินิจฉัยของคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำจังหวัดสระบุรีว่าจำเลยไม่มีสิทธิบอกเลิกการเช่านาพิพาท มิใช่วันที่โจทก์เพิ่งรู้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์"

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายฉาบ รื่นภาคเดช จำเลย - นายสันติ เลี้ยวจำนงค์

ชื่อองค์คณะ สุชาติ จิวะชาติ พิศิษฏ์ เทศะบำรุง ประสม ศรีเจริญ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE