สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2481/2539

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2481/2539

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 156 วรรคสี่, 249 วรรคหนึ่ง

เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์จำเลยทั้งสองมีสิทธิดำเนินการเพื่อให้ศาลรับอุทธรณ์ของตนได้โดยนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน15วันตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดกรณีหนึ่งหรือยื่นคำร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา156วรรคสี่อีกกรณีหนึ่งเมื่อจำเลยทั้งสองใช้สิทธิดำเนินการในกรณีหลังก็ต้องยื่นคำร้องเสียภายในกำหนด15วันเช่นเดียวกันเพราะเป็นการใช้สิทธิเพื่อให้ศาลรับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองเหมือนกันแต่จำเลยทั้งสองใช้สิทธิดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา156วรรคสี่เมื่อพ้นกำหนด15วันแล้วจึงชอบที่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตและไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง โจทก์ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองจำเลยทั้งสองมิได้แก้อุทธรณ์ตั้งประเด็นในปัญหาว่าโจทก์ไม่คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นภายใน8วันจึงหมดสิทธิคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นจำเลยยกปัญหาดังกล่าวขึ้นฎีกาจึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 938,219.18 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย จำเลยทั้งสองอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วเห็นว่าจำเลยทั้งสองไม่ยากจนสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา หากจำเลยทั้งสองประสงค์ที่จะอุทธรณ์ให้นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน 15 วันโดยศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2533 จำเลยทั้งสองไม่ได้นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางแต่ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่เพื่ออนุญาตให้จำเลยทั้งสองนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าจำเลยทั้งสองเป็นคนยากจนโดยยื่นคำร้องดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2533 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำร้อง นัดไต่สวน โจทก์แถลงคัดค้านว่า จำเลยทั้งสองมิได้เป็นคนยากจน และล่วงเลยกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์แล้ว จำเลยทั้งสองจึงได้แถลงไม่ติดใจขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา และขอวางเงินค่าธรรมเนียม โจทก์แถลงคัดค้านในวันเดียวกันว่ากำหนดระยะเวลา15 วัน ที่ศาลกำหนดให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลล่างพ้นไปแล้ว จำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิอุทธรณ์หรือฎีกาอีกต่อไป ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาลและมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง

โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ไม่อนุญาตและไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ จำเลยทั้งสองย่อมมีสิทธิดำเนินการเพื่อให้ศาลรับอุทธรณ์ของตนได้คือ นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระเสียภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดกรณีหนึ่ง หรือยื่นคำร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่อีกกรณีหนึ่ง เมื่อจำเลยทั้งสองใช้สิทธิดำเนินการในกรณีหลังตามกฎหมายมาตราดังกล่าว แม้กฎหมายมาตราดังกล่าวนี้จะไม่ได้กำหนดระยะเวลาให้ยื่นคำร้องไว้ แต่เมื่อการใช้สิทธิดำเนินการในกรณีแรกคือนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระ ต้องนำมาชำระเสียภายใน15 วัน ตามคำสั่งของศาลชั้นต้น ดังนี้การใช้สิทธิดำเนินการในกรณีหลังตามกฎหมายมาตราดังกล่าวนั้นก็ต้องดำเนินการคือยื่นคำร้องเสียภายใน 15 วัน เช่นเดียวกัน เพราะเป็นการใช้สิทธิเพื่อให้ศาลรับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองเหมือนกัน แต่จำเลยทั้งสองใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายมาตราดังกล่าวเมื่อพ้นกำหนด 15 วันแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยที่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองใช้สิทธิดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคสี่ และไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองส่วนที่จำเลยทั้งสองฎีกาข้อกฎหมายว่า โจทก์ไม่คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นภายใน 8 วัน โจทก์จึงหมดสิทธิคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งรับคำร้องของจำเลยทั้งสองที่ขอใช้สิทธิดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ นั้นเห็นว่า เมื่อโจทก์ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองแล้ว จำเลยทั้งสองมิได้แก้อุทธรณ์ตั้งประเด็นในปัญหาดังกล่าวไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาโดยชอบในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาง ปฐนีย์ เอี่ยมผ่องใส จำเลย - พันตำรวจโท กวินทร์ เภกะนันทน์ กับพวก

ชื่อองค์คณะ นาม ยิ้มแย้ม จรัญ หัตถกรรม เหล็ก ไทรวิจิตร

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE