สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2450/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2450/2525

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 27, 138, 145, 207

การที่คู่ความจะขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 นั้น ต้องเป็นกรณีที่คู่ความฝ่ายนั้นแพ้คดีเพราะขาดนัดพิจารณา จำเลยขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างว่าลายเซ็นในใบแต่งทนายความของตนเป็นลายเซ็นปลอม สัญญาประนีประนอมยอมความที่ทนายจำเลยทำไปจึงตกเป็นโมฆะนั้นไม่ใช่เรื่องจำเลยแพ้คดีเพราะขาดนัดพิจารณาจำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่

การขอเพิกถอนการพิจารณาคดีที่ผิดระเบียบนั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคสอง บังคับอยู่ในตัวว่าข้อคัดค้านเรื่องผิดระเบียบต้องยื่นก่อนพิพากษา การที่จำเลยขอเพิกถอนคำพิพากษาตามยอม ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจะกระทำไม่ได้นั้นมิใช่การขอเพิกถอนการพิจารณา จะถือว่าเป็นการขอเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบไม่ได้

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งเจ็ดชำระหนี้ให้โจทก์ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีและสัญญาจำนอง

จำเลยทั้งเจ็ดยื่นใบแต่งทนายความ แต่งให้นายประเทศเป็นทนายความและขอทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์โดยจำเลยผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุด ต่อมาอีก 8 ปีเศษ จำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ยื่นคำร้องขอให้ศาลดำเนินการพิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่าจำเลยที่ 3ที่ 4 ที่ 5 ไม่เคยแต่งให้นายประเทศเป็นทนายความมาทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ลายเซ็นชื่อในใบแต่งทนายความเป็นลายเซ็นปลอม ลายเซ็นชื่อจำเลยที่ปรากฏในเอกสารของโจทก์ในคดีนี้ทั้งหมดก็เป็นลายเซ็นปลอม จำเลยไม่เคยทำสัญญาจำนองกับโจทก์ ไม่เคยได้รับหมายเรียก สำเนาฟ้องหรือหมายนัดพิจารณาของศาลเลย ขอให้ศาลเพิกถอนกระบวนพิจารณานับตั้งแต่การส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องจนถึงวันทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้งดการบังคับคดีไว้ แล้วดำเนินการพิจารณาใหม่

ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง

จำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 3ที่ 4 ที่ 5 แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยจะขอให้มีการพิจารณาใหม่ได้นั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 บัญญัติว่าต้องเป็นเรื่องแพ้คดีเพราะขาดนัดพิจารณา คดีนี้จำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ขอพิจารณาใหม่โดยอ้างว่า ลายเซ็นในใบแต่งทนายความของตนเป็นลายเซ็นปลอม สัญญาประนีประนอมยอมความตกเป็นโมฆะ ซึ่งไม่ใช่เรื่องจำเลยแพ้คดีเพราะขาดนัดพิจารณา ฉะนั้นจำเลยจึงไม่มีสิทธิขอพิจารณาใหม่ตามมาตรา 207ดังกล่าวแล้วได้ และจะถือว่าเป็นการขอเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ก็ไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องจำเลยขอเพิกถอนคำพิพากษาตามยอม หาใช่เพิกถอนการพิจารณาไม่โดยเฉพาะมาตรา 27 วรรคสอง บังคับอยู่ในตัวว่า ข้อค้านเรื่องผิดระเบียบต้องยื่นก่อนศาลพิพากษา ซึ่งเห็นได้ว่าจำเลยจะขอเพิกถอนคำพิพากษาไม่ได้

พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 เสีย

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - ธนาคารไทยพัฒนา จำกัด จำเลย - ห้างหุ้นส่วนจำกัด ประกิจเจริญ กับพวก

ชื่อองค์คณะ ทวี กสิยพงศ์ พินิจ สังขนันท์ พิพัฒน์ จักรางกูร

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE