สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2399/2518

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2399/2518

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 335, 339 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11

จำเลยลักไก่ 4 ตัวไปจากบ้านผู้เสียหาย ผู้เสียหายชวนเพื่อนบ้านออกติดตามไป 1 ชั่วโมงเศษ ถึงกระท่อมนาซึ่งอยู่ห่างบ้านผู้เสียหายประมาณ 100 เส้น คนละหมู่บ้านกัน พบเข่งไก่กับไก่ 4 ตัวอยู่ในกระท่อม จำเลยนั่งอยู่ใกล้เข่งไก่ ผู้เสียหายเข้าไปถามจำเลย จำเลยลุกขึ้นยืนถือเหล็กแหลมจ้องมาทางผู้เสียหายกับพวก ผู้เสียหายกับพวกจึงช่วยกันจับจำเลยไว้ ดังนี้ เมื่อจำเลยถือเหล็กแหลมจ้องขู่ผู้เสียหายนั้น การลักทรัพย์ของจำเลยขาดตอนไปแล้ว ไม่ใช่อยู่ในระหว่างพาทรัพย์ไป การขู่จะทำร้ายเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายหลัง มิได้ต่อเนื่องในการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ จึงไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีเหล็กแหลมเป็นอาวุธติดตัวบังอาจลักไก่ 4 ตัวของนายบุญมี ผู้เสียหายไปโดยทุจริต โดยจำเลยใช้เหล็กแหลมขู่จะแทงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายกับพวก ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์และพาทรัพย์นั้นไป เพื่อยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้ และเพื่อให้พ้นจากการจับกุม เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเหล็กแหลม 1 เล่มที่จำเลยใช้กระทำผิดเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 14 และริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นฟังว่า การกระทำของจำเลยเป็นการลักทรัพย์ ไม่ใช่ชิงทรัพย์ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 คงจำคุก 8 เดือน ริบของกลาง

โจทก์อุทธรณ์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่โจทก์นำสืบว่า ในวันเวลาเกิดเหตุจำเลยลักไก่ 4 ตัวไปจากบ้านผู้เสียหาย ผู้เสียหายชวนนายคำผลเพื่อนบ้านออกติดตามไป 1 ชั่วโมงเศษถึงกระท่อมนาของนายจิตซึ่งอยู่ห่างบ้านผู้เสียหายประมาณ 100 เส้นคนละหมู่บ้านกันไปพบเข่งไก่กับไก่ 4 ตัวอยู่ในกระท่อมนาของนายจิต จำเลยนั่งอยู่ใกล้เข่งไก่ ผู้เสียหายเข้าไปถามว่า มึงเอาเข่งไก่กูมาทำไม จำเลยตอบว่าไม่ใช่ของพ่อลุง แล้วลุกขึ้นยืนถือเหล็กแหลมจ้องมาทางผู้เสียหายกับพวก ผู้เสียหายกับพวกจึงช่วยกันจับกุมจำเลยส่งผู้ใหญ่บ้านและตำรวจดำเนินคดีนี้

ได้ความดังกล่าวแล้วเห็นว่า เมื่อจำเลยถือเหล็กแหลมจ้องขู่ผู้เสียหายนั้น การลักทรัพย์ของจำเลยขาดตอนไปแล้ว ไม่ใช่อยู่ในระหว่างพาทรัพย์ไป การขู่จะทำร้ายเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายหลังมิได้ต่อเนื่องในการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดร้อยเอ็ด จำเลย - นายน้อย หรือบุญชู นิลผาย หรือสุ่มมาตย์

ชื่อองค์คณะ กฤษณ์ โสภิตกุล สุมิตร ฟักทองพรรณ ชุบ วีระเวคิน

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE