สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2373/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2373/2525

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 59, 80, 288

จำเลยใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 6 นิ้ว แทงผู้เสียหายขณะหันหลังให้ จำเลยย่อมมีโอกาสที่จะเลือกแทง และแทงที่ใกล้สะบักซ้ายถึง 2 แผล อันเล็งเห็นได้ว่าอาจถูกอวัยวะสำคัญภายในถึงตายได้ บาดแผลดังกล่าวทำให้มีเลือดและลมในช่องปอด ต้องเจาะเอาเลือดออกเมื่อผู้เสียหายหันกลับมา จำเลยยังจ้วงแทงอีก 2 ครั้ง หากไม่ยกข้อศอกขึ้นรับก็คงจะถูกแทงที่หน้าอกอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญแห่งร่างกาย ดังนี้จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80

เนื้อหาฉบับเต็ม

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 จำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ จำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมแทงทำร้ายผู้เสียหาย จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายถึงสาหัส คงมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยมีเจตนาที่จะฆ่าผู้เสียหายหรือไม่ เห็นว่า เหตุที่จะเกิดเป็นคดีนี้ก็เพราะจำเลยเข้าใจว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นหัวหน้าของจำเลยรายงานต่อผู้จัดการบริษัทที่จำเลยทำงานอยู่ด้วยว่าจำเลยทำงานไม่เป็น เป็นเหตุให้บริษัทเลิกจ้างจำเลย จำเลยจึงมีความโกรธเคืองและมาดักคอยทำร้ายผู้เสียหายที่ปากซอยทางเข้าบ้าน โจทก์มีนายบุญธรรม ปลื้มกมล ซึ่งทำงานอยู่บริษัทเดียวกับจำเลย เบิกความเป็นพยานว่าเมื่อเวลาประมาณ 17.00 นาฬิกา ก่อนที่จะเกิดเหตุ จำเลยได้มาพูดกับพยานว่า จะเอาเลือดหัวหน้าให้ได้ ซึ่งหมายความถึงผู้เสียหาย พร้อมกับเอามีดปลายแหลมออกมาให้ดูด้วยเป็นมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 คืบ ต่อมาเวลาประมาณ 17 นาฬิกาเศษผู้เสียหายก็ถูกจำเลยแทงด้วยมีดปลายแหลม ซึ่งคงจะเป็นมีดเล่มเดียวกับที่จำเลยให้นายบุญธรรมดูนั่นเอง หาใช่มีดที่จำเลยอ้างว่าเพิ่งคว้ามาจากข้างแปลงไม้ดอกดังที่จำเลยนำสืบไม่ ผู้เสียหายเบิกความว่า ขณะผู้เสียหายเลิกงานเดินมาถึงปากซอยจะเข้าบ้านได้พบจำเลยซึ่งมารออยู่ก่อน จำเลยเรียกให้ผู้เสียหายเข้าไปหา และต่อว่าผู้เสียหายว่าผู้เสียหายพูดว่าจำเลยทำงานไม่เป็น ผู้เสียหายตอบว่าผู้เสียหายไม่เกี่ยว พูดแล้วก็หันหลังกลับจะเดินเข้าบ้าน ทันใดก็รู้สึกตัวว่าถูกแทง 2 ครั้ง ผู้เสียหายหันกลับมาก็เห็นจำเลยถือมีดปลายแหลมยาวประมาณ 6 นิ้ว และจ้วงแทงอีก ผู้เสียหายยกข้อศอกซ้ายขึ้นรับไว้ จึงมีบาดแผลที่ข้อศอกซ้ายและเหนือข้อศอกซ้ายอีก 2 แผล ผู้เสียหายไม่ได้ชกต่อยจำเลยแต่อย่างใด บาดแผลของผู้เสียหายปรากฏตามที่ศาลชั้นต้นตรวจและบันทึกไว้ว่าผู้เสียหายมีบาดแผลถูกแทงที่ด้านหลัง 2 แผล แผลแรกถูกแทงที่ใกล้สะบักซ้าย แผลที่ 2 อยู่เยื้องลงมาห่างแผลแรกประมาณ 5 นิ้ว และที่ข้อศอกซ้ายมีแผลอยู่ 2 แผล ตรงตามคำผู้เสียหาย คำผู้เสียหายจึงประกอบด้วยเหตุผล เชื่อได้ว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหายทางด้านหลังขณะที่ผู้เสียหายหันหลังจะเดินเข้าบ้านโดยไม่รู้ตัวว่าจะถูกจำเลยทำร้าย เมื่อถูกแทงแล้วผู้เสียหายหันกลับมาก็ถูกจำเลยจ้วงแทงอีกผู้เสียหายจำเป็นต้องยกข้อศอกขึ้นรับแล้วก็วิ่งหนีไป ที่จำเลยนำสืบว่า ผู้เสียหายชกต่อยและเตะจำเลยก่อน จำเลยสู้ไม่ได้ จึงคว้ามีดขึ้นมาแทงป้องกันตัวนั้น คงมีแต่คำจำเลยเองซึ่งเบิกความลอย ๆ ขัดต่อสภาพบาดแผลของผู้เสียหาย ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยใช้มีดแทงทำร้ายข้างเดียวโดยผู้เสียหายได้ทำร้ายจำเลยไม่ การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 6 นิ้วแทงผู้เสียหายขณะที่ผู้เสียหายหันหลังให้จำเลย จำเลยย่อมมีโอกาสที่จะเลือกแทง และจำเลยแทงผู้เสียหายที่ใกล้สะบักซ้ายถึง 2 แผล อันเล็งเห็นได้ว่าอาจถูกอวัยวะสำคัญภายในถึงตายได้ เมื่อผู้เสียหายหันกลับมาจำเลยยังจ้วงแทงผู้เสียหายอีก 2 ครั้งผู้เสียหายยกข้อศอกขึ้นรับไว้จนมีบาดแผลปรากฏอยู่ ถ้าผู้เสียหายไม่ยกข้อศอกขึ้นรับ ก็คงจะถูกแทงที่หน้าอกอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญแห่งร่างกาย บาดแผลของผู้เสียหายที่ถูกแทงทางด้านหลังนั้นปรากฏตามรายงานการตรวจชันสูตรของแพทย์ว่า ทำให้มีเลือดและลมในช่องปอดซ้าย แพทย์หญิงพนอศักดิ์ กองกาญจน์ ผู้ตรวจรักษาผู้เสียหายเบิกความเป็นพยานโจทก์ว่าในการรักษาผู้เสียหาย พยานได้เจาะเอาเลือดซึ่งตกเข้าไปในช่องปอดออก ผู้เสียหายได้รับอันตรายจากการทำร้ายของจำเลยถึงสาหัส ตามพฤติการณ์ดั่งได้ความมาเห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - อัยการอุบลราชธานี จำเลย - นายสุริยา แซ่โด้

ชื่อองค์คณะ ศักดิ์ สนองชาติ เฟื่องขจิต รัศมิภูติ สมศักดิ์ ปาลวัฒน์วิไชย

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE