สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2525

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 31กรกฎาคม พ.ศ.2521

นายจ้างมีข้อบังคับว่า ถ้าลูกจ้างคนใดมีอายุครบ 60 ปี ในระหว่างปี ลูกจ้างคนนั้นมีสิทธิที่จะเลือกออกจากงานในวันถัดจากวันที่มีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ หรือในวันสิ้นปีงบประมาณที่เกษียณอายุก็ได้ ดังนั้น การที่ลูกจ้างใช้สิทธิเลือกออกจากงานก่อนสิ้นปีงบประมาณเมื่อลูกจ้างอายุครบ 60 ปีแล้วซึ่งข้อบังคับของนายจ้างเปิดโอกาสให้ลูกจ้างเลือกทำได้ จึงเป็นการเลิกจ้างหาใช่เป็นลาออกจากงานไม่

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำ จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่จ่ายค่าชดเชยให้ ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้เลิกจ้างโจทก์ โจทก์ขอลาออกจากงานเองโจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า โจทก์มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 4 เมษายน 2525 ซึ่งโจทก์จะต้องออกจากงานฐานเกษียณอายุในวันที่ 1 ตุลาคม 2525 แต่โจทก์ถึงออกจากงานตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน2525 อันเป็นการใช้สิทธิตามข้อบังคับจำเลย ฉบับที่ 201 ข้อ 9.1 วรรคแรกซึ่งมีความว่า "ฐานเกษียณอายุคือ เมื่ออายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ ผู้ใดมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ในระหว่างปีใด ให้มีสิทธิที่จะทำงานต่อไปได้จนถึงสิ้นปีงบประมาณที่ครบเกษียณอายุแล้วให้ออกจากงานตั้งแต่วันขึ้นปีใหม่ของปีงบประมาณถัดไป แต่ถ้าผู้นั้นประสงค์จะออกเมื่ออายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ก็ให้ออกจากงานได้ตั้งแต่วันถัดไป" มีความหมายว่า ถ้าลูกจ้างคนใดมีอายุครบหกสิบปีในระหว่างปี ลูกจ้างคนนั้นมีสิทธิที่จะเลือกออกจากงานในวันถัดจากวันมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ หรือวันสิ้นปีงบประมาณที่ครบเกษียณอายุก็ได้การที่ลูกจ้างใช้สิทธิเลือกออกจากงานก่อนสิ้นปีงบประมาณดังเช่นโจทก์คดีนี้จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการลาออกจากงาน ข้อบังคับของจำเลยดังกล่าวใช้คำว่า"ให้ออกจากงาน" จึงเป็นเรื่องที่จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างจะดำเนินการให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างออกจากงานหรือ "เลิกจ้าง" โจทก์ในวันที่โจทก์เลือก ตรงกันข้ามกับกรณีลูกจ้างซึ่งมีอายุครบห้าสิบปีบริบูรณ์ประสงค์จะลาออกจากงานตามข้อบังคับจำเลยข้อ 9.1 วรรคสอง ซึ่งกำหนดให้ผู้มีอำนาจ "สั่งอนุญาตให้ลาออกจากงาน" ไม่ได้ใช้คำว่า "ให้ออกจากงาน" ดังเช่นข้อบังคับจำเลยข้อ 9.1 วรรคแรก ด้วยเหตุนี้การที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์ตามเจตนาของโจทก์ซึ่งข้อบังคับของจำเลยเปิดโอกาสให้โจทก์เลือกทำได้จึงถือได้ว่าเป็นการเลิกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16เมษายน 2515 ข้อ 46 (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2521 ข้อ 2

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายมานะ นาคเสน จำเลย - การรถไฟแห่งประเทศไทย

ชื่อองค์คณะ สุรัช รัตนอุดม ขจร หะวานนท์ สมบูรณ์ บุญภินนท์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE