คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2519
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 144
จำเลยเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทเมืองทองการก่อสร้าง จำกัดได้มอบเงินจำนวน 50,000 บาท แก่นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งมีอำนาจหน้าที่พิจารณาอนุญาตให้ทำการก่อสร้างอาคารในเขตเทศบาล เพื่อจูงใจให้นายกเทศมนตรีอนุมัติให้จำเลยปลูกสร้างอาคารโดยเร็ว ทั้งที่เรื่องราวหลักฐานการขออนุญาตปลูกสร้างอาคารยังไม่เรียบร้อยพอที่จะอนุญาตได้ อันเป็นการมิชอบด้วยหน้าที่ จำเลยจึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทเมืองทองการก่อสร้างจำกัดซึ่งได้เช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราเพื่อปลูกสร้างอาคารพาณิชย์ให้เช่า จำเลยได้ให้เงินสินบน 50,000 บาท แก่นายจำลอง เทวารุทธ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราซึ่งมีอำนาจหน้าที่พิจารณาอนุญาตให้ทำการก่อสร้างอาคารในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราแก่ผู้ขออนุญาตตามกฎหมายเพื่อจูงใจให้นายจำลอง เทวารุทธ สั่งอนุญาตให้จำเลยได้ปลูกสร้างอาคารตามคำขออนุญาตปลูกสร้างของจำเลยที่ได้ยื่นต่อทางการเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราไว้ก่อนแล้ว ทั้ง ๆ ที่จำเลยรู้อยู่แล้วว่า หลักฐานต่าง ๆ ที่จำเลยนำเสนอยังไม่ถูกต้องสมบูรณ์พอที่นายจำลอง เทวารุทธ จะพิจารณาสั่งการตามที่จำเลยขออนุญาตได้ เพื่อให้นายจำลอง เทวารุทธ กระทำการอันมิชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตำรวจจับจำเลยได้ในวันเกิดเหตุพร้อมด้วยเงิน 50,000 บาท เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144,34 และสั่งริบเงินของกลาง 50,000 บาทด้วย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยได้ให้เงิน 50,000 บาท แก่นายจำลอง เทวารุทธ จริง ทั้งนี้ เพื่อให้นายจำลองลงชื่ออนุญาตให้บริษัทของจำเลยได้สร้างตึกแถวโดยเร็ว แต่มิได้ขอร้องว่าถ้าคำขอและแบบแปลนไม่ถูกต้องตามระเบียบก็ขอให้เซ็นอนุญาตให้ จำเลยเพียงแต่ขอให้เซ็นเร็วหน่อยเท่านั้น ไม่ได้ขอร้องหรือจูงใจให้นายจำลองกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่แต่ประการใด จึงไม่เป็นความผิดฐานให้สินบนต่อเจ้าพนักงาน พิพากษายกฟ้องโจทก์ คืนเงิน 50,000 บาทของกลางแก่จำเลย
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง จำเลยอุทธรณ์ว่าที่จำเลยนำเงิน 50,000 บาทไปให้นายจำลองนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องขอให้เซ็นอนุญาตให้จำเลยก่อสร้างตึกแถว จำเลยให้เงินนายจำลองเป็นการฝากเนื้อฝากตัวเพื่อให้นายจำลองช่วยหาลูกค้ามาเช่าห้องที่จำเลยปลูกสร้าง แต่นายจำลองมีเจตนากลั่นแกล้งจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว ฟังว่า จำเลยพูดขอให้นายจำลอง เทวารุทธลงชื่ออนุมัติแบบแปลนภายใน 7 วัน พร้อมทั้งนำเงิน 50,000 บาท ไปมอบให้นายจำลองเป็นการจูงใจให้นายจำลองกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่มิใช่นายจำลองมีเจตนากลั่นแกล้งจำเลย พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144, 34 จำคุก 1 ปี เงินของกลาง 50,000 บาทให้ริบ
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยสถานหนัก จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยมอบเงินให้นายจำลอง 50,000 บาทโดยมีเจตนาจูงใจให้นายจำลองอนุมัติให้จำเลยปลูกสร้างอาคารโดยเร็ว ทั้งที่เรื่องราวหลักฐานการขออนุญาตปลูกสร้างอาคารยังไม่เรียบร้อยพอที่นายจำลองจะอนุญาตได้ อันเป็นการมิชอบด้วยอำนาจหน้าที่ของนายกเทศมนตรีจริงที่จำเลยฎีกาอ้างเป็นข้อกฎหมายว่า การที่จำเลยมอบเงินให้เจ้าพนักงานเพื่อให้เขาปฏิบัติหน้าที่โดยรวดเร็ว มิใช่เป็นการให้สินบนตามกฎหมาย โดยอ้างว่าตามข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบได้ความชัดว่า แบบแปลนที่จำเลยยื่นถูกต้องตามเทศบัญญัติทุกประการ นั้น เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงที่จะนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายผิดไปจากที่ศาลฎีกาได้ยกขึ้นวินิจฉัยดังกล่าวแล้วข้างต้น ศาลฎีกาจึงวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายตามที่จำเลยยกเป็นข้อฎีกาให้ไม่ได้ และศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยถูกจับพร้อมด้วยเงินของกลาง และได้มีการถ่ายรูปไว้ทันที่จำเลยถูกจับกุม แม้กระนั้นจำเลยก็ยังพยายามเบี่ยงบ่ายต่อสู้คดีด้วยประการต่าง ๆ ถึงขนาดเบิกความกล่าวโทษนายจำลอง เทวารุทธ ว่าเรียกเงินจากจำเลยแล้วกลับแกล้งจับกุมจำเลยว่าให้สินบนเจ้าพนักงาน และกล่าวโทษพนักงานอัยการโจทก์ต่ออัยการพิเศษประจำเขตว่า ไม่ให้ความเป็นธรรมแก่จำเลยเป็นต้น ตามพฤติการณ์แห่งคดีแสดงว่าจำเลยมีชั้นเชิงในการให้สินบนเจ้าพนักงานโดยการนำสิ่งของที่เจ้าพนักงานพอจะรับไว้โดยมีเหตุอ้างว่าไม่ผิดหน้าที่มามอบให้ก่อน แล้วจึงเอาเงินจำนวนมากมามอบให้เป็นการจูงใจให้กระทำผิดหน้าที่ และส่อให้เห็นว่า เงินที่จำเลยมอบให้นี้จะทำให้ผู้รับต้องยอมทำตามที่จำเลยต้องการ แม้จะเป็นการผิดหน้าที่อยู่ตลอดไปอันทำให้การทุจริตคิดมิชอบในวงราชการแพร่หลายยิ่งขึ้นจึงสมควรกำหนดโทษจำเลยให้หนักขึ้น
พิพากษาแก้ ให้จำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 2 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดฉะเชิงเทรา จำเลย - นายฮีกุ่ย แซ่เฮ้ง
ชื่อองค์คณะ สงวน สิทธิไชย อุดม จาละ ปรีชา สุมาวงศ์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan