สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2112/2543

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2112/2543

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 218 วรรคหนึ่ง

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะโทษและแก้เฉพาะเรื่องของกลางจากไม่ริบเป็นริบรถยนต์บรรทุกและรถพ่วงของกลางอันเป็นการแก้ไขเล็กน้อย และยังคงลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามมาตรา 218 วรรคหนึ่ง แห่ง ป.วิ.อ. ที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบาและไม่ริบรถยนต์บรรทุกและรถพ่วงของกลางอันเป็นการฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการลงโทษของศาลอุทธรณ์ภาค 2 จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าว

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๖๑ , ๗๓ ริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๖๑ , ๗๓ ปรับ ๔,๐๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐานจึงไม่ลดโทษให้ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ , ๓๐ ยกคำขอให้ริบของกลาง

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษ และริบรถยนต์ของกลาง โดยอัยการพิเศษประจำเขต ๑ ซึ่งได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด รับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุก ๒ เดือน อีกสถานหนึ่ง โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๑ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ริบรถยนต์บรรทุกและรถพ่วงของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้ว เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลย ๔,๐๐๐ บาท และยกคำขอที่ให้ริบรถยนต์บรรทุกและรถพ่วงของกลาง ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลย ๒ เดือน อีกสถานหนึ่ง โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๑ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ริบรถยนต์บรรทุกและรถพ่วงของกลางจึงเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะโทษ และแก้เฉพาะเรื่องของกลางจากไม่ริบเป็นริบรถยนต์บรรทุกและรถพ่วงของกลางอันเป็นการแก้ไขเล็กน้อย แต่ยังลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน ๕ ปี จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามมาตรา ๒๑๘ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษในสถานเบาและไม่ริบรถยนต์บรรทุกและรถพ่วงของกลาง อันเป็นการฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการลงโทษของศาลอุทธรณ์ภาค ๒ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายกฎีกาจำเลย.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดสระบุรี จำเลย - นายอุเทน ควบคุม

ชื่อองค์คณะ สมชาย พงษธา กมล เพียรพิทักษ์ จรัส พวงมณี

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลจังหวัดสระบุรี - นายประดิษฐ์ จิตต์จำนงค์ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 - นายพินิจ สุเสารัจ

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE