สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2109/2540

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2109/2540

พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ม. 94 (2), 106

เจ้าหนี้เจตนาจะพยุงฐานะของลูกหนี้แม้จะกระทำโดยสุจริตก็ตามเมื่อหนี้ที่ก่อขึ้นนี้เป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวจึงเป็นหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ไม่ได้ตามมาตรา94(2)แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483 แม้คำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ไม่มีผู้ใดโต้แย้งแต่ถ้าตามทางสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ปรากฎว่าเป็นหนี้ซึ่งเจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวศาลก็มีอำนาจยกคำขอรับชำระหนี้ได้ตามมาตรา94ประกอบด้วยมาตรา106แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้มูลกรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) เด็ดขาด เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2536และมีคำพิพากษาให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลาย ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 61 เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2537 เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน1,091,232.88 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ รายละเอียดปรากฎตามบัญชีท้ายคำขอรับชำระหนี้

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 104 แล้ว ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้รายนี้

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้ว เห็นว่า เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้โดยรู้ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวและมีเจตนาพยุงฐานะของลูกหนี้จึงเป็นหนี้ที่ต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 94(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 เห็นควรยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้เสียทั้งสิ้นตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 107(1)

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้

เจ้าหนี้ อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แก้อุทธรณ์เอง มิได้แต่งทนายความแก้อุทธรณ์ จึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้

เจ้าหนี้ ฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของเจ้าหนี้ในข้อแรกว่า หนี้ที่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้เป็นหนี้เมื่อรู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่ เห็นว่า ตามทางสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ปรากฎว่าเจ้าหนี้ได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คของลูกหนี้มาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะเช็คตามเอกสารหมาย จ.พ.ท.1 และ จ.พ.ท.2ซึ่งมีเงินตามเช็คถึง 3,700,000 บาท และเช็คตามเอกสารหมายจ.พ.ท.1 เจ้าหนี้ได้ปฏิเสธการจ่ายเงินมา 2 ครั้ง ก่อนที่เจ้าหนี้จะรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากลูกหนี้เป็นเวลาเกือบ 5 เดือนเจ้าหนี้จะอ้างว่าไม่รู้ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวหาได้ไม่ และปรากฎว่าตั๋วสัญญาใช้เงินที่ลูกหนี้นำไปขายลดให้แก่เจ้าหนี้จำนวน 2 ฉบับ เป็นเงินรวม 2,000,000 บาท แต่มีนายชาตรีทำสัญญาค้ำประกันโดยมีเงินฝากสะสมทรัพย์เป็นประกันด้วยเพียง1,000,000 บาท ส่วนโฉนดที่ดินที่ลูกหนี้มอบให้นั้นเจ้าหนี้ก็ไม่ได้นำไปจดทะเบียนจำนองแต่อย่างใด ส่อแสดงให้เห็นว่าเจ้าหนี้เจตนาจะพยุงฐานะของลูกหนี้แม้จะกระทำโดยสุจริตก็ตาม เมื่อหนี้ที่ก่อขึ้นนี้เป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้ล้นพ้นตัวจึงเป็นหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ไม่ได้ตามมาตรา 94(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของเจ้าหนี้ในข้อต่อไปมีว่าคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ไม่มีผู้ใดโต้แย้งจะยกคำขอรับชำระหนี้รายนี้ได้หรือไม่ เห็นว่า แม้คำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ไม่มีผู้ใดโต้แย้ง แต่ถ้าตามทางสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ปรากฎว่าเป็นหนี้ซึ่งเจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ศาลก็มีอำนาจยกคำขอรับชำระหนี้ได้ตามมาตรา 94 ประกอบด้วยมาตรา 106 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483

พิพากษายืน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แก่ฎีกาเอง จึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นฎีกาให้

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด โจทก์ - เจ้าหนี้ โจทก์ - ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด จำเลย - นาง พรณีย์ เพ็งสิน

ชื่อองค์คณะ ไพโรจน์ คำอ่อน เสริม บุญทรงสันติกุล พิชัย เตโซพิทยากูล

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE