สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2105/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2104 - 2105/2525

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน

การที่จำเลยตกลงจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างต่อไปเป็นรายปีหลังจากมีคำสั่งอนุมัติให้โจทก์ออกจากหน้าที่เพราะเกษียณอายุตามกฎหมายแล้วนั้น มิใช่เป็นการขยายกำหนดเวลาการทำงานของโจทก์ออกต่อไปหากแต่เป็นการตกลงทำสัญญาจ้างกันใหม่ จึงเป็นสัญญาที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนดังนั้น เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ตามกำหนดระยะเวลาในสัญญาจ้างและโจทก์ฟ้องเรียกค่าชดเชยเนื่องจากถูกจำเลยเลิกจ้างตามสัญญาใหม่นี้จำเลยจึงได้รับยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์ที่ 1 ที่ 2 เป็นลูกจ้างประจำ ต่อมา จำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสองโดยไม่จ่ายค่าชดเชย ขอบังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ทั้งสองพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันเลิกจ้างจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยให้การว่าโจทก์ที่ 1 ที่ 2 พ้นจากการเป็นลูกจ้างของจำเลยเพราะเหตุเกษียณอายุตามกฎหมาย โจทก์ที่ 1 เกษียณอายุเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2514 หลังจากนั้นถึงวันที่ 30 กันยายน 2517 จำเลยจ้างโจทก์ที่ 1 เป็นลูกจ้างชั่วคราว การจ้างโจทก์ที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2514 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2517 เป็นการจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาแน่นอน จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ย คดีโจทก์ขาดอายุความขอให้พิพากษายกฟ้อง

ในวันนัดพิจารณาคู่ความแถลงรับกันว่า โจทก์ที่ 1 ได้ออกจากงานเพราะเกษียณอายุเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2514 หลังจากนั้นได้เป็นลูกจ้างชั่วคราวของจำเลยมีสัญญาการจ้างเป็นรายปี จำเลยไม่จ้างโจทก์ที่ 1 หลังจากหมดสัญญาปี 2517 แล้ว

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ทั้งสองพร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยเกี่ยวกับโจทก์ที่ 1 ว่าตามฟ้องและคำแถลงรับของโจทก์ที่ 1 เห็นได้ว่าโจทก์ที่ 1 ประสงค์จะเรียกค่าชดเชยเพราะเหตุที่จำเลยเลิกจ้างเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2517 โจทก์ที่ 1 ครบเกษียณอายุเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2514 จำเลยได้มีคำสั่งอนุมัติให้โจทก์ที่ 1 ออกจากหน้าที่แล้วจำเลยได้จ้างโจทก์ที่ 1 เป็นลูกจ้างชั่วคราวเป็นรายปี ในปีแรกตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2514ถึงวันที่ 30 กันยายน 2515 ปีที่สองตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2515 ถึงวันที่ 30 กันยายน2516 ปีที่สามตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2516 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2517 เมื่อครบปีที่สามแล้วจำเลยมีคำสั่งเลิกจ้างตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2517 เป็นต้นไป การที่จำเลยตกลงจ้างโจทก์ที่ 1 เป็นลูกจ้างต่อไปเป็นรายปีจนครบ 3 ปีแล้วเลิกจ้างนั้น มิใช่เป็นการขยายกำหนดเวลาการทำงานของโจทก์ที่ 1 ออกต่อไป หากแต่เป็นการตกลงทำสัญญาจ้างกันใหม่ภายหลังจากโจทก์ที่ 1 มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์แล้ว โดยจ้างมีกำหนดเป็นปี ๆ ไปสัญญาจ้างดังกล่าวจึงเป็นสัญญาที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนและเลิกจ้างตามกำหนดระยะเวลานั้น จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างได้รับยกเว้นไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องจ่ายค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 46

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องเฉพาะโจทก์ที่ 1 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายบุญยงค์ มนูธรรม กับพวก จำเลย - กรมประชาสงเคราะห์

ชื่อองค์คณะ ดุสิต วราโห ขจร หะวานนท์ ไพศาล สว่างเนตร

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE