สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2098/2518

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2098/2518

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 368, 861

ผู้เอาประกันภัยได้ปิดร้านค้าที่เก็บทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้ มีประตูเหล็กปิดกั้นใส่กุญแจแล้วเอาโซ่ล่ามใส่กุญแจอีกชั้นหนึ่ง คนร้ายได้เปิดประตูเหล็กเข้าไปลักทรัพย์ดังกล่าวในร้านโดยโซ่และกุญแจหายไปด้วย ดังนี้ถือได้ว่าคนร้ายเข้าไปโดยใช้กำลังและวิธีการรุนแรงตามกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งระบุให้ความคุ้มครองทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัยในกรณีที่คนร้ายบุกรุกเข้าไปลักทรัพย์ในสถานที่โดยใช้กำลังและวิธีการรุนแรงแล้ว ผู้รับประกันภัยจึงต้องรับผิดตามกรมธรรม์ดังกล่าว

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้เอาประกันภัยทรัพย์สินไว้กับจำเลยประเภทประกันโจรกรรมและบุกรุกในวงเงิน 100,000 บาท ต่อมามีคนร้ายทำการงัดแงะหรือไขกุญแจเข้าไปในที่เก็บทรัพย์ตามกรมธรรม์แล้วลักเอาทรัพย์ต่าง ๆ ของโจทก์ไปมีมูลค่า 30,230 บาท ตามบัญชีท้ายฟ้อง โจทก์แจ้งให้จำเลยทราบ จำเลยปฏิเสธการใช้เงินอ้างว่าความสูญหายนั้นกรมธรรม์ไม่คุ้มครอง ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน30,230 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จำเลยให้การว่า จำเลยไม่รับรองว่าโจทก์ถูกโจรกรรมและทรัพย์สินหายไปจริงตามฟ้อง ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องให้ชัดเจนว่าการกระทำผิดของคนร้ายได้ใช้วิธีใด สัญญากรมธรรม์ให้ความคุ้มครองทรัพย์สินที่สูญหายจะต้องเกิดจากการโจรกรรมต่อเนื่องมาจากการที่คนร้ายบุกรุกเข้าไปในสถานที่โดยใช้กำลังและวิธีการที่รุนแรง เมื่อไม่ปรากฏร่องรอยของการกระทำความผิดหรือลักษณะของการกระทำความผิดของคนร้ายว่าเกิดขึ้นประการใดจำเลยก็ไม่ต้องรับผิด หากจะต้องรับผิดก็รับผิดตามส่วนเฉลี่ยไม่เกิน 14,834.25 บาท ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 14,834.25 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยตามฟ้อง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าทรัพย์สินของโจทก์ที่เอาประกันภัยไว้กับจำเลยตามกรมธรรม์ถูกคนร้ายโจรกรรมไปจริง ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่โจทก์ทำไว้กับจำเลยข้อเอและบี คุ้มครองทรัพย์สินของโจทก์ในกรณีที่คนร้ายบุกรุกเข้าไปลักทรัพย์ในสถานที่โดยใช้กำลังและวิธีการรุนแรง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ได้ปิดร้านค้าที่เก็บทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้มีประตูเหล็กปิดกั้น ใส่กุญแจแล้วเอาโซ่ล่ามใส่กุญแจอีกชั้นหนึ่งและคนร้ายได้เปิดประตูเหล็กเข้าไปลักทรัพย์ดังกล่าวในร้านโดยโซ่และกุญแจหายไปด้วยเห็นได้ว่าคนร้ายเข้าไปโดยใช้กำลังและวิธีการรุนแรงตามกรมธรรม์แล้ว จำเลยจึงต้องรับผิดโจทก์ตามกรมธรรม์

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - ห้างหุ้นส่วนจำกัดสยามอีเล็คโทรนิคส์ ฯ จำเลย - บริษัทกรุงเทพประกันภัย จำกัด

ชื่อองค์คณะ ชุ่ม สุนทรธัย พิชัย รชตะนันทน์ อุดม ทันด่วน

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE