สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2088/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2088/2525

พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ม. 7, 50 (4) ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 116

ไม้แปรรูปซึ่งแปรรูปจากไม้ซึ่งขึ้นในที่ดินของจำเลยและไม่ใช่ไม้สักหรือไม้ยาง ทั้งมิได้ขึ้นอยู่ในป่าจึงไม่เป็นไม้หวงห้ามจำเลยมีไม้แปรรูปดังกล่าวไว้ในครอบครอง จึงไม่มีความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจทำไม้โดยตัดฟันและถากไม้เต็ง ไม้รังอันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. โดยไม่รับอนุญาต และมีไม้หวงห้ามดังกล่าวรวมทั้งไม้ประดู่ไม้พลวงแปรรูปแล้วปริมาตรเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตรไว้ในความครอบครอง ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11, 48, 73, 74, 74 จัตวา พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494 มาตรา 6 พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 19, 28 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2522มาตรา 7, 9 ริบของกลาง และสั่งจ่ายสินบนนำจับให้แก่ผู้นำจับ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยตัดฟันและถากไม้ซึ่งขึ้นอยู่ในที่ดินของจำเลยและสามี จึงไม่มีความผิดฐานทำไม้ แต่มีความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 48, 73, 74, 74 จัตวา พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518มาตรา 19, 28 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2522 มาตรา 9 ลงโทษจำคุก2 ปี ปรับ 30,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ของกลางริบจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย ยกฟ้องข้อหาทำไม้โดยไม่รับอนุญาต

จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องข้อหามีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยไม่ต้องจ่ายสินบนนำจับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตาตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่า ไม้แปรรูปของกลางที่จำเลยมีไว้ในความครอบครอง เป็นไม้ที่ขึ้นอยู่ในที่ดินของจำเลยและสามี การมีไว้ในความครอบครองแม้จะไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีความผิด

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ไม้แปรรูปของกลางแปรรูปจากไม้ซึ่งขึ้นในที่ดินของจำเลยและสามี ไม่ใช่ไม้สักและไม้ยาง ทั้งมิได้ขึ้นอยู่ในป่า จึงไม่เป็นไม้หวงห้ามตามมาตรา 7แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 7 จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484มาตรา 50(4) แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 116

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ข้อหามีไม้แปรรูปของกลางไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ของกลางคืนจำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดสกลนคร จำเลย - นางไสว อัญฤาชัย

ชื่อองค์คณะ ประสม ศรีเจริญ พิศิษฏ์ เทศะบำรุง สุชาติ จิวะชาติ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE