สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2086/2543

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2086/2543

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 33

จำเลยใช้รถยนต์บรรทุกมีน้ำหนักบรรทุกรวมทั้งน้ำหนักรถเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดถึง 13,150 กิโลกรัม โดยไม่นำพาว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสภาพทางหลวงของแผ่นดิน ซึ่งเป็นสมบัติส่วนรวมและมีไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกันของสาธารณชน และทำให้ผู้ร่วมใช้เส้นทางสัญจรไปมาต้องเสี่ยงอันตรายจากสภาพถนนที่ง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุและอันตรายที่เกิดจากสภาพของรถยนต์ที่มีน้ำหนักบรรทุกเป็นจำนวนมากจนเกินกว่าที่ผู้ขับขี่จะควบคุมให้แล่นไปได้อย่างปลอดภัย รถยนต์บรรทุกซึ่งใช้ในการกระทำความผิดจึงเป็นทรัพย์ที่สมควรต้องริบ

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535มาตรา 61, 73 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติทางหลวงพ.ศ. 2535 มาตรา 61, 73 จำคุก 1 เดือน และปรับ 6,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ไม่ลดโทษให้ โทษจำคุกรอไว้มีกำหนด 2 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ส่วนรถยนต์บรรทุกของกลางเห็นสมควรไม่ริบ

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบของกลาง โดยอัยการพิเศษประจำเขต 7 ซึ่งได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาโดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่า สมควรริบรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 81-2175 สุพรรณบุรี ของกลาง หรือไม่ เห็นว่าจำเลยใช้รถยนต์บรรทุกของกลางมีน้ำหนักบรรทุกรวมทั้งน้ำหนักรถเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ถึง 13,150 กิโลกรัม โดยไม่นำพาว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงเพียงใดต่อสภาพทางหลวงแผ่นดิน ซึ่งเป็นสมบัติส่วนรวมและมีไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกันของสาธารณชน การกระทำดังกล่าวของจำเลยนั้น ทำให้ผู้ร่วมใช้เส้นทางสัญจรไปมาต้องเสี่ยงต่ออันตรายจากสภาพถนนที่ง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุและอันตรายที่เกิดจากสภาพของรถยนต์ที่มีน้ำหนักบรรทุกเป็นจำนวนมากจนเกินกว่าที่ผู้ขับขี่จะควบคุมให้แล่นไปได้อย่างปลอดภัย เมื่อจำเลยใช้รถยนต์บรรทุกของกลางในการกระทำผิดโดยมุ่งแต่ประโยชน์สูงสุดในทางเศรษฐกิจของตนเพียงอย่างเดียวไม่สนใจว่าจะก่อผลกระทบที่เสียหายต่อสังคมอย่างไร ดังนั้นรถยนต์บรรทุกของกลาง ซึ่งใช้ในการกระทำความผิดจึงเป็นทรัพย์ที่สมควรต้องริบการที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ใช้ดุลพินิจไม่ริบรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 81-2175สุพรรณบุรี ของกลางไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น"

พิพากษาแก้เป็นว่า ริบรถยนต์บรรทุกของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการประจำศาลแขวงสุพรรณบุรี จำเลย - นาย บุญส่ง มณีอินทร์

ชื่อองค์คณะ สมชาย พงษธา กมล เพียรพิทักษ์ จรัส พวงมณี

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE