สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2531

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2531

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 219, 370, 460 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 180 (2)

จำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การในวันชี้สองสถาน และข้อที่ขอแก้ไขก็เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดแจ้งในคำให้การแต่แรกอยู่แล้ว จึงเป็นคำร้องที่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 180(2) ชอบที่จะยกคำร้องของจำเลย

จำเลยอ้างเหตุส่งมอบดินขาวให้โจทก์ตามสัญญาไม่ได้เพราะมีโจรแบ่งแยกดินแดนข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองจากโรงงานที่ผลิตดินขาวของจำเลยจนคนงานไม่กล้าเข้าไปทำงาน ดังนี้ เมื่อตามสัญญามิได้เจาะจงให้ส่งมอบดินขาวจากแหล่งผลิตของโรงงานจำเลย จำเลยจึงย่อมจัดหาดินขาวจากแหล่งอื่นได้ ดินขาวมิใช่เป็นทรัพย์เฉพาะสิ่ง จำเลยจะอ้างว่าการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัยและปฏิเสธความรับผิดไม่ได้.

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อขายดินขาวจากจำเลยจำนวน600 เมตริกตันจำเลยผิดสัญญาโดยส่งมอบดินขาวงวดที่ 5 ไม่ครบตามสัญญาและมิได้ส่งมอบดินขาวงวดที่ 6 ต้องถูกปรับเป็นเงิน237,898.87 บาทโจทก์ได้บอกเลิกสัญญากับจำเลยและแจ้งให้จำเลยชำระค่าปรับแล้วจำเลยเพิกเฉยขอให้บังคับจำเลยชำระค่าปรับพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่าเหตุที่ส่งมอบดินขาวให้ไม่ได้เนื่องจากสถานะการณ์ที่จังหวัดนราธิวาสซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานผลิตดินขายมีโจรแบ่งแยกดินแดนซึ่งได้ข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองจนคนงานไม่กล้าเข้าไปทำงานในโรงงานและไม่อาจส่งมอบดินขาวให้ได้เพราะเหตุสุดวิสัยการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัยอันไม่อาจโทษจำเลยได้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าปรับจากจำเลย ขอให้ยกฟ้อง

วันนัดชี้สองสถานจำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต เพราะมิได้ยื่นก่อนวันชี้สองสถาน

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระค่าปรับพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่ามีข้อวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยและให้งดสืบพยานเป็นการชอบหรือไม่นั้น เห็นว่าคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2528 จำเลยได้ยื่นต่อศาลชั้นต้นในวันเดียวกับที่ศาลชั้นต้นกำหนดการชี้สองสถานและศาลชั้นต้นได้ทำการชี้สองสถานในวันนั้นด้วย ถือว่าคำร้องขอของจำเลยได้ยื่นต่อศาลในวันชี้สองสถาน จึงขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 180 (2) ที่ระบุให้ยื่นก่อนวันชี้สองสถานและเหตุที่จำเลยขอเพิ่มเติมคำให้การก็เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดแจ้งในคำให้การแต่แรกของจำเลยอยู่แล้วที่จำเลยฎีกาว่าการชำระหนี้ที่จำเลยส่งมอบดินขาวให้แก่โจทก์เป็นการพ้นวิสัย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์นั้น พิเคราะห์สัญญาซื้อขายดินขาวระหว่างโจทก์จำเลยตามเอกสารหมายเลข 2 ท้ายฟ้องซึ่งจำเลยรับว่าได้ทำสัญญากับโจทก์จริง ไม่ปรากฏข้อความใดพอที่จะให้ถือเป็นเหตุเพื่อให้จำเลยผู้เป็นคู่สัญญายกขึ้นอ้างเพื่อปัดความรับผิดตามที่จำเลยให้การต่อสู้ไว้ได้โดยเฉพาะวัตถุแห่งหนี้ที่เป็นดินขาวย่อมสามารถจัดหาวัตถุดังกล่าวจากแหล่งอื่นได้ไม่ยากนัก และตามสัญญาหาได้เจาะจงให้นำจากแหล่งผลิตของโรงงานจำเลยในจังหวัดนราธิวาส โดยเฉพาะไม่ทั้งลักษณะของทรัพย์ที่เป็นวัตถุแห่งหนี้มิใช่เป็นทรัพย์เฉพาะสิ่งที่จะต้องส่งมอบแก่โจทก์ตามสัญญาจึงไม่เป็นการพ้นวิสัยที่จำเลยจะบอกปัดความรับผิดนั้นได้

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - กรมโรงงานอุตสาหกรรม จำเลย - บริษัท สยาม เคลย์ จำกัด

ชื่อองค์คณะ สง่า ศิลปประสิทธิ์ ชูเชิด รักตะบุตร์ ถาวร ตันตราภรณ์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE