สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1963/2543

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1963/2543

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 33 (1) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 186 (9) พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 ม. 116

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานขายและมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มิได้ขอให้ลงโทษจำเลยฐานเสพเมทแอมเฟตามีนโดยฝ่าฝืนกฎหมาย กล้องและกรวยเสพวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวจึงมิใช่เครื่องมือและอุปกรณ์หรือภาชนะหรือหีบห่อที่บรรจุที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีตามที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษดังที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 116 แห่ง พ.ร.บ. วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 หรือเป็นทรัพย์สินซึ่งจำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดตามที่โจทก์ขอให้ลงโทษดังที่บัญญัติไว้ มาตรา 33 (1) แห่ง ป.อ. เช่นเดียวกัน จึงไม่อาจริบได้

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 5, 6, 13 ทวิ, 62, 89, 106, 116 ป.อ. มาตรา 3, 32, 33 ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางให้แก่กระทรวงสาธารณสุข คืนธนบัตรจำนวน 220 บาท ที่ใช้ล่อซื้อของกลางแก่เจ้าของและริบของกลางทั้งหมด

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, 62 วรรคหนึ่ง, 89, 106 (ที่ถูกมาตรา 106 วรรคหนึ่ง) ให้เรียงกระทงลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 91 ฐานขายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 5 ปี ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองจำคุก 1 ปี รวมจำคุก 6 ปี คำรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตาม ป.อ. มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 4 ปี ริบกล้อง 1 อัน กรวยที่ทำจากกระดาษตะกั่ว 1 อัน และเมทแอมเฟตามีนของกลางให้แก่กระทรวงสาธารณสุข คืนธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อจำนวน 220 บาท แก่เจ้าของ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานขายเมทแอมเฟตามีน ซึ่งเป็นบทหนักตาม ป.อ. มาตรา 90 จำคุก 5 ปี ลดโทษให้ตาม ป.อ. มาตรา 78 หนึ่งในสามแล้ว คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ริบของกลาง คือกล้องเสพวัตถุออกฤทธิ์และกรวยเสพวัตถุออกฤทธิ์ทำจากกระดาษตะกั่ว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการเสพเมทแอมเฟตามีนของจำเลย และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนในส่วนนี้นั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานขายและมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มิได้ขอให้ลงโทษจำเลยฐานเสพเมทแอมเฟตามีนโดยฝ่าฝืนกฎหมาย กล้องและกรวยเสพวัตถุออกฤทธิ์ (เมทแอมเฟตามีน) ดังกล่าวจึงมิใช่เครื่องมือและอุปกรณ์หรือภาชนะหรือหีบห่อที่บรรจุที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีตามที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษดังที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 116 แห่ง พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 หรือเป็นทรัพย์สินซึ่งจำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดตามที่โจทก์ขอให้ลงโทษดังที่บัญญัติไว้ มาตรา 33 (1) แห่งประมวลกฎหมายอาญาเช่นเดียวกัน จึงไม่อาจริบได้ แม้จำเลยไม่ได้ฎีกา แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบด้วย มาตรา 225

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอของโจทก์เฉพาะส่วนที่ขอให้ริบกล้องและกรวยเสพวัตถุออกฤทธิ์ของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด จำเลย - นายมานิจ มีสวัสดิ์

ชื่อองค์คณะ จำรูญ แสนภักดี ณรงค์ศักดิ์ วิจิตรสาระวงศ์ วสันต์ ตรีสุวรรณ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลอาญาธนบุรี - นายวิชชา ชินวงษ์พราห์ม ศาลอุทธรณ์ - นายสุรพล เตชะกำธร

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE