สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1930/2522

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1930/2522

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 23, 177 วรรคหนึ่ง, 199, 228

หากจำเลยมีความจำเป็นไม่อาจจะยื่นคำให้การได้ทันภายในกำหนดเวลาแปดวันก็ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาออกไปได้ โดยแสดงให้ศาลเห็นว่ากรณีมีพฤติการณ์พิเศษ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 และถึงแม้ระยะเวลาแปดวันจะผ่านพ้นไปแล้ว จำเลยก็ยังอาจขอขยายระยะเวลาได้โดยแสดงให้ศาลเห็นว่าเป็นกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยแต่จำเลยหาได้ปฏิบัติเช่นนั้นไม่ กลับมายื่นคำร้องหลังจากพ้นกำหนดแปดวันแล้วโดยอ้างว่ามิได้มีเจตนาจงใจจะขาดนัดยื่นคำให้การซึ่งเป็นเหตุผลที่จำเลยชอบที่จะอ้างหลังจากที่ศาลได้มีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 ในชั้นนี้ยังไม่มีกรณีจะต้องพิจารณาถึงว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การโดยไม่จงใจหรือโดยมีเหตุอันสมควรหรือไม่ ศาลจึงสั่งรับคำให้การจำเลยไว้ไม่ได้

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามให้ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เนื่องจากผู้ใต้บังคับบัญชาของจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์

จำเลยทั้งสามยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะคำให้การของจำเลยที่ 1 และที่ 3 ไม่รับคำให้การของจำเลยที่ 2 เพราะยื่นเมื่อพ้นกำหนดเวลาแล้ว

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 ฎีกา ขอให้อนุญาตให้จำเลยที่ 2 ยื่นคำให้การ

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ได้มีการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2521 จำเลยที่ 2 จึงชอบที่จะต้องยื่นคำให้การภายในวันที่ 18 กรกฎาคม 2521 หากจำเลยมีความจำเป็นไม่อาจจะยื่นคำให้การได้ทันภายในกำหนดเวลาดังกล่าวก็น่าจะร้องขอขยายระยะเวลาออกไปตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ได้เปิดโอกาสไว้ให้แล้ว โดยแสดงให้ศาลเห็นว่ากรณีของจำเลยที่ 2 มีพฤติการณ์พิเศษที่สมควรได้รับการขยายระยะเวลายื่นคำให้การ ดังที่จำเลยที่ 1 และที่ 3 ได้ร้องขอและศาลชั้นต้นก็ได้อนุญาตให้ และถึงแม้ระยะเวลาแปดวันจะผ่านพ้นไปแล้วจำเลยที่ 2 ก็ยังอาจขอขยายระยะเวลาได้โดยแสดงให้ศาลเห็นว่าเป็นกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยทำให้จำเลยที่ 2 ร้องขอขยายระยะเวลาก่อนครบกำหนดแปดวันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคหนึ่งไม่ได้ แต่จำเลยที่ 2 ก็หาได้ปฏิบัติเช่นนั้นไม่ กลับมาอ้างในคำร้องลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2521 ว่า จำเลยมิได้มีเจตนาจงใจจะขาดนัดยื่นคำให้การ ซึ่งเป็นเหตุผลที่จำเลยชอบที่จะอ้างหลังจากที่ศาลได้มีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 แต่ในชั้นนี้ยังไม่มีกรณีจะต้องพิจารณาถึงว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การโดยไม่จงใจหรือโดยมีเหตุอันสมควรหรือไม่คงมีปัญหาเพียงว่า ศาลจะสั่งรับคำให้การของจำเลยซึ่งนำมายื่นเมื่อพ้นระยะเวลาตามที่ มาตรา 177 วรรคหนึ่ง กำหนดไว้ได้หรือไม่เท่านั้น และเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยนำคำให้การมายื่นเมื่อพ้นระยะเวลาโดยมิได้รับอนุญาตจากศาลให้ขยายระยะเวลานั้นออกไป ศาลก็จะสั่งรับคำให้การของจำเลยที่ 2 ไว้ไม่ได้ ฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีไทยสวัสดิ์ราชสีมาโดย โจทก์ - นายทองปลิว คูสกุล ผู้รับมอบอำนาจ จำเลย - กองทัพบก กับพวก

ชื่อองค์คณะ จำรัส เขมะจารุ ประเสริฐ วราภรณ์ ธาดา วัชรานันท์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE