คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1911/2522
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 319
ผู้เสียหายอายุ 15 ปี ได้เสียกับจำเลย แล้วมีจดหมายชวนจำเลยไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ วันเกิดเหตุผู้เสียหายมาหาจำเลยแล้วผู้เสียหายกับจำเลยพากันไปอยู่กรุงเทพฯดังนี้ เป็นเรื่องผู้เสียหายสมัครใจไปจากบิดามารดาเองจำเลยไม่ได้พรากผู้เสียหายไปเสียจากบิดามารดา ไม่เป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพรากผู้เยาว์อายุ 15 ปี ไปเพื่อการอนาจารและหากำไรโดยผู้เสียหายเต็มใจไปด้วย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องลงโทษจำคุก 2 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยเป็นนักเรียนไปพักอยู่ที่บ้านบิดาผู้เสียหาย แล้วได้เสียกับผู้เสียหาย ก่อนเกิดเหตุคดีนี้จำเลยกลับไปอยู่บ้านผู้เสียหายเขียนจดหมายถึงจำเลยว่าตั้งท้องได้ 5 เดือน และชวนจำเลยไปอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน และนัดจะมารับจำเลย วันเกิดเหตุคดีนี้ผู้เสียหายได้จัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าและถอนเงิน 2,140 บาท แล้วไปหาจำเลยพาจำเลยไปอยู่ด้วยกันที่บ้านเช่าในกรุงเทพฯ เป็นเวลา 15 วัน จนหมดเงินจึงพากันกลับเพื่อจะขอเงินจากน้องของผู้เสียหาย เผอิญมารดาผู้เสียหายพบเข้ามารดาผู้เสียหายจึงพาคนทั้งสองมาที่บ้านแล้วให้ตำรวจจับจำเลย ดังนี้ เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายชวนจำเลยไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ ผู้เสียหายสมัครใจไปจากบิดามารดาเองจำเลยไม่ได้พรากผู้เสียหายไปเสียจากบิดามารดา ไม่เป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดอุทัยธานี จำเลย - นายสุรศักดิ์ ธรรมศร
ชื่อองค์คณะ สุวัฒน์ รัตรสาร จันทร์ ระรวยทรง สุไพศาล วิบุลศิลป์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan