คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1909/2522
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 36 พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยและริบแร่ แต่จำเลยไม่ใช่ตัวแทนหรือลูกจ้างผู้ร้อง ผู้ร้องมิใช่คู่ความในคดี คำพิพากษาไม่ผูกมัดผู้ร้องซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของแร่และไม่รู้เห็นเป็นใจในการทำผิด
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยผู้ขนแร่ของผู้ร้อง และริบแร่ของกลางศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอคืนแร่ของผู้ร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ไต่สวนมีคำสั่งใหม่ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ในคดีเดิมนั้น ห้างฯ ผู้ร้องมิได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยด้วย แม้กระทั่งนายบุญช่วยและนายบุญพาซึ่งในชั้นนั้น ศาลฟังว่าเป็นตัวแทนและลูกจ้างของผู้ร้องก็มิได้ถูกฟ้อง ผู้ที่ถูกฟ้องกลายเป็นผู้ที่ผู้ร้องมิได้เกี่ยวข้องด้วย ในชั้นนั้นผู้ร้องยังเป็นบุคคลนอกคดี ยังไม่มีโอกาสเข้ามานำสืบพยานโต้แย้งหรือหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์และไม่ได้แถลงรับตามข้อเท็จจริงที่ศาลได้ฟังไว้ในการพิจารณาคดีของจำเลย ข้อเท็จจริงดังที่ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาฟังตามที่ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยมานั้นไม่มีผลผูกพันผู้ร้อง ผู้ร้องอาจจะนำสืบในชั้นนี้ให้ศาลฟังแตกต่างออกไปเป็นอย่างอื่นก็ได้ ยังไม่สมควรงดสืบพยานไปเสียเลย"
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - อัยการพังงา จำเลย - นายภิรมย์ หรือพ่อ ก่อสุข ผู้ร้อง - ห.ส.ม. จั่นลิ่ม
ชื่อองค์คณะ ประทีป ชุ่มวัฒนะ สมบัติ วังตาล ทวี กสิยพงศ์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan