สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831/2522

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831/2522

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 46, 220

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุก ขอให้ขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองที่พิพาทการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกหรือละเมิดทางแพ่ง พิพากษายกฟ้อง ดังนี้ เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาในความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ส่วนคดีทางแพ่งที่ขอให้ขับไล่จำเลยนั้น เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองที่พิพาท จึงไม่มีสิทธิขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลย

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้าไปปลูกอาคารในที่ดินที่โจทก์มีสิทธิครอบครอง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 365, 83ให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกไปและให้ใช้ค่าเสียหาย

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งประทับฟ้อง

จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีสิทธิในที่ดินพิพาท จำเลยอาศัยปลูกอาคารในที่ดินของมณฑลทหารบกที่ 4 มิได้บุกรุกที่ดินโจทก์

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์มิได้ครอบครองที่พิพาท พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ครอบครองที่พิพาทและขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้องและขับไล่จำเลยกับบริวาร

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความผิดฐานบุกรุกศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองที่พิพาท การกระทำของจำเลยทั้งสองไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกหรือเป็นละเมิดทางแพ่ง พิพากษายกฟ้องเป็นการยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริง ฉะนั้นที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามฟ้อง ต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 มาตรา 8 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

ส่วนคดีทางแพ่งที่โจทก์ฎีกาขอให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกจากที่พิพาทนั้น เห็นว่า คดีนี้เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองที่พิพาทตามที่ศาลล่างทั้งสองฟังมาดังกล่าวตอนต้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิขับไล่จำเลย และเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสองไม่ได้ คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นางสุรางค์ ศิลปเจริญ จำเลย - สิบเอกศรี โคกโต กับพวก

ชื่อองค์คณะ ภักดิ์ บุณย์ภักดี สีห์ คลายนสูตร ภิญโญ ธีรนิติ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE