สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2531

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2531

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 59, 288 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 226

แพทย์เบิกความว่าบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับนอกจากจะพบหัวกระสุนปืนแล้วยังพบหมอนรองกระสุนปืนฝังอยู่ในบาดแผลด้วยแสดงว่าคนร้ายยิงผู้เสียหายในระยะใกล้ชิดมาก ซึ่งรับกับคำของผู้เสียหายว่าเห็นจำเลยเดินค่อมๆใช้มือไขว้หลังเดินมาทางด้านหลังผู้เสียหายแล้วใช้ปืนยิงห่างจากผู้เสียหายประมาณ1 เมตรเช่นนี้ คำเบิกความของผู้เสียหายรับฟังได้ เพราะหากมิได้ยิงในระยะใกล้หมอนรองกระสุนซึ่งมีน้ำหนักเบาคงไม่เข้าไปฝังอยู่ในบาดแผล

จำเลยใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นซึ่งเป็นอาวุธที่ทำให้ถึงแก่ความตายได้ยิงผู้เสียหายในระยะกระชั้นชิด แม้กระสุนถูกขาผู้เสียหาย แต่ก็เนื่องจากผู้เสียหายระวังตัวอยู่ก่อนและหลบได้ทัน กระสุนจึงพลาดจากตัวไปถูกขา เช่นนี้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า.(ที่มา-ส่งเสริม)

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289,80

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288, 80 จำคุก 12 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า '…ปัญหาวินิจฉัยมีว่า คำเบิกความของผู้เสียหายที่ว่าจำเลยลอบเข้ามายิงผู้เสียหายทางด้านหลังนั้นรับฟังได้เพียงใดหรือไม่ ได้ตรวจสอบคำเบิกความของผู้เสียหายประกอบกับคำเบิกความของนายแพทย์ชาญชัย โอภาสนวคุณแล้ว นายแพทย์ชาญชัยเบิกความว่า บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับนอกจากจะพบหัวกระสุนปืนแล้ว ยังพบหมอนรองกระสุนปืนฝังอยู่ในบาดแผลด้วยแสดงว่าคนร้ายได้ยิงผู้เสียหายในระยะใกล้ชิดมาก จึงเป็นการรับกับคำเบิกความของผู้เสียหายที่ว่า เห็นจำเลยเดินค่อมๆ ใช้มือไขว้หลังผิดสังเกต เดินมาทางด้านหลังผู้เสียหาย แล้วใช้ปืนยิง ขณะยิงห่างผู้เสียหายประมาณ 1 เมตร เพราะหากมิได้ยิงในระยะใกล้แล้วหมอนรองกระสุนซึ่งมีน้ำหนักเบาคงไม่เข้าไปฝังอยู่ในบาดแผลของผู้เสียหาย…

ฎีกาข้อสุดท้ายของจำเลยที่ว่า การที่ศาลล่างพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าไม่ถูกต้องนั้น เห็นว่า นอกจากจำเลยใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นซึ่งเป็นอาวุธที่ทำให้ถึงแก่ความตายได้ยิงผู้เสียหายในระยะกระชั้นชิดแล้ว จากคำเบิกความของผู้เสียหายทั้งในชั้นสอบสวนและในชั้นศาลมิได้แสดงให้เห็นว่าจำเลยเจตนาจะยิงที่ขาแต่การที่กระสุนถูกขานั้นเนื่องจากผู้เสียหายระวังตัวอยู่ก่อนและหลบได้ทันท่วงทีกระสุนจึงพลาดจากตัวไปถูกขา พฤติการณ์แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย และแม้กระสุนจะถูกที่ขา นายแพทย์สมชัย ม้าแก้วที่ทำการรักษาเบิกความว่า บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับอยู่ใกล้เส้นเลือดใหญ่ ถ้ากระสุนถูกเส้นเลือดใหญ่จะทำให้เลือดออกมาก ผู้เสียหายอาจถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น'

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการ จังหวัด ศรีสะเกษ จำเลย - นาย สม หมาย ศิลารักษ์

ชื่อองค์คณะ ชูเชิด รักตะบุตร์ สง่า ศิลปประสิทธิ์ ถาวร ตันตราภรณ์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE