สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2522

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2522

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 8, 553, 562

จำเลยเช่าหม้อแปลงไฟฟ้าจากโจทก์แล้วถูกคนร้ายลักเอาไปตามสัญญาผู้เช่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นเว้นแต่เหตุสุดวิสัย แต่หม้อแปลงไฟฟ้าที่จำเลยเช่าติดตั้งอยู่ในที่เปลี่ยวนอกที่ดินจำเลยห่างบ้านจำเลยถึงครึ่งกิโลเมตรเศษ จำเลยไม่อยู่ในวิสัยที่จะป้องกันมิให้คนร้ายลักเอาหม้อแปลงไฟฟ้าในยามวิกาล ขณะเกิดเหตุฝนตกลมแรงซึ่งปกติไฟดับได้ การที่จำเลยไม่ออกไปตรวจดูในขณะนั้นจะถือว่าจำเลยไม่ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายไม่ได้ การที่คนร้ายลักหม้อแปลงไฟฟ้าในกรณีเช่นนี้จึงเป็นเหตุสุดวิสัยซึ่งจำเลยไม่อาจป้องกันได้ จำเลยไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าหม้อแปลงไฟฟ้า 1 เครื่องจากโจทก์ ราคา 16,000 บาท เพื่อนำไปใช้ไฟฟ้า ณ บ้านพักจำเลยในอัตราค่าเช่าเดือนละ 260 บาท ในสัญญาเช่าระบุว่า ผู้เช่ามีหน้าที่ดูแลรักษาหม้อแปลงที่เช่า หากเกิดความชำรุดเสียหายขึ้นไม่ว่ากรณีใด ๆ ผู้เช่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เว้นแต่เป็นเหตุสุดวิสัย ต่อมาหม้อแปลงไฟฟ้าดังกล่าวถูกคนร้ายลักไป โดยจำเลยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ไม่ใช้ความระมัดระวังอย่างวิญญูชนจะพึงกระทำออกไปตรวจดูเสียบ้าง ขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยให้การว่าได้เช่าหม้อแปลงไฟฟ้าจากโจทก์ตามฟ้องจริง แต่หม้อแปลงที่จำเลยเช่าติดตั้งในที่เปลี่ยวห่างบ้านจำเลยมากเกินความสามารถของจำเลยจะดูแลรักษาประกอบกับเหตุลักทรัพย์เกิดในเวลาวิกาล ฝนตก เป็นเหตุสุดวิสัย จำเลยไม่ต้องรับผิด ขอให้พิพากษายกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า การที่หม้อแปลงไฟฟ้าถูกคนร้ายลักไปเป็นเหตุสุดวิสัย จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่คนร้ายลักหม้อแปลงไฟฟ้าไปเป็นเหตุสุดวิสัยหรือไม่

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ปัญหาว่าการที่คนร้ายลักหม้อแปลงไฟฟ้าไปเป็นเหตุสุดวิสัยหรือไม่ ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นฟังมาว่า หม้อแปลงไฟฟ้าติดตั้งไว้กับเสาไฟฟ้าแรงสูงอยู่สูงจากพื้นดินมาก และอยู่ในที่เปลี่ยวห่างจากบ้านจำเลย 555 เมตร ติดตั้งนอกที่ดินผู้ใช้ไฟฟ้าซึ่งตามปกติโจทก์มีหน้าที่ดูแลรักษา ขณะเกิดเหตุเป็นเวลาเลย 23 นาฬิกาไปแล้ว มีฝนตกหนักลมแรงซึ่งปกติมักเป็นเหตุให้ไฟดับ การที่คนร้ายจะมาลักหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก ศาลฎีกาเห็นว่าหม้อแปลงไฟฟ้าติดตั้งอยู่ในที่เปลี่ยวนอกที่ดินจำเลย และห่างบ้านจำเลยถึงครึ่งกิโลเมตรเศษจำเลยไม่อยู่ในวิสัยที่จะป้องกันมิให้คนร้ายลักเอาหม้อแปลงไฟฟ้าในยามวิกาลขณะเกิดเหตุฝนตกหนักลมแรงซึ่งตามปกติไฟดับได้ การที่จำเลยไม่ออกไปตรวจดูในขณะนั้นจะถือว่าจำเลยไม่ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายไม่ได้ การที่คนร้ายลักหม้อแปลงไฟฟ้าไปในกรณีเช่นนี้ จึงเป็นเหตุสุดวิสัยซึ่งจำเลยไม่อาจป้องกันได้ จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำเลย - นายจำรัส โกมุทกลาง

ชื่อองค์คณะ กุศล บุญยืน ปรีชา สุมาวงศ์ สุวรรณพ กองวารี

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE