คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1154/2522
พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 คำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ม. , ประมวลกฎหมายอาญา ม. 90, 91 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11
ความผิดในเรื่องมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาตเกิดขึ้นในตัวทันใดที่กรรมเรื่องซื้ออาวุธปืนได้สำเร็จลงแล้วนั่นเองการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทเพราะจำเลยมีเจตนาที่จะมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองอยู่ขณะซื้อแล้ว
โจทก์ฟ้องว่า ในวันและเวลาเดียวกันจำเลยซื้อและมีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย และพาอาวุธปืนกับกระสุนปืนดังกล่าวติดตัวไปในทางสาธารณะโดยมิชอบขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 พ.ศ. 2519ข้อ 3, 6, 7 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371, 90, 91 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2514 ข้อ 2 ขอให้ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าการกระทำของจำเลยฐานมีและซื้อาวุธปืนเป็นความผิดกรรมเดียวหลายบท ลงโทษฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานพาอาวุธปืนติดตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต ของกลางริบ
โจทก์อุทธรณ์ ขอให้เรียงกระทงลงโทษจำเลยฐานซื้อาวุธปืนกับฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การจะวินิจฉัยดังกล่าวข้อสำคัญอยู่ที่ว่ากรรมที่จำเลยกระทำอันเป็นความผิดฐานใดฐานหนึ่งได้สำเร็จไปแล้วตอนหนึ่ง แล้วจำเลยได้กระทำกรรมใหม่อันเป็นความผิดขึ้นอีก ดังนี้ จึงเป็นหลายกรรม กรณีนี้กรรมในเรื่องซื้ออาวุธปืนไม่ได้รับอนุญาตได้สำเร็จไปแล้ว โดยจำเลยมิได้ทำกรรมอะไรใหม่ในเรื่องมีอาวุธปืน เพราะจำเลยมีเจตนาที่จะมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองอยู่ขณะซื้อแล้ว กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ความผิดในเรื่องมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาตเกิดขึ้นในตัวทันใดที่กรรมเรื่องซื้ออาวุธปืนได้สำเร็จแล้วนั่นเองการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดชัยภูมิ จำเลย - นายหนูนา ไทยทวี
ชื่อองค์คณะ สีห์ คลายนสูตร ภิญโญ ธีรนิติ ภักดิ์ บุณย์ภักดี
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan