คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1097/2522
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 193
จำเลยฎีกาว่า แม้ข้อเท็จจริงจะได้ความตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาจำเลยก็ยังไม่มีความผิดฐานพยายามกรรโชกตามฟ้องดังนี้ เป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่ได้ยกข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงไว้โดยชัดแจ้งในฎีกาแต่ประการใดเลย จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยร่วมกับคนร้ายพยายามกรรโชกทรัพย์จากผู้เสียหาย พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 337, 80 จำคุก 8 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "คดีนี้ปรากฏว่าศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า จำเลยได้ร่วมกับคนร้ายพยายามกรรโชกทรัพย์จากผู้เสียหายจริงตามฟ้อง จำเลยคงฎีกาว่า แม้ข้อเท็จจริงจะได้ความตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาก็ตาม จำเลยก็เห็นว่าจำเลยยังไม่มีความผิดฐานพยายามกรรโชกตามฟ้อง ศาลฎีกาเห็นว่าที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยยังไม่มีความผิดฐานพยายามกรรโชกนั้น จำเลยกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่ได้ยกข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงไว้โดยชัดแจ้งในฟ้องฎีกาแต่ประการใดเลย จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย"
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - อัยการสุราษฎร์ธานี จำเลย - นายทวีศักดิ์ ชัยรัตน์
ชื่อองค์คณะ พยนต์ ยาวะประภาษ ผสม จิตรชุ่ม สุทิน เลิศวิรุฬห์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan