คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1057/2518
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281 ประมวลกฎหมายอาญา ม. 29, 86
ห้างหุ้นส่วนจำกัดมีผู้เป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดเป็นคนไทย 1 คน ผู้เป็นหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดเป็นคนต่างด้าว 1 คน ถือเป็นคนต่างด้าวตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่281 ห้างหุ้นส่วนนี้ทำการค้าประกอบธุรกิจนายหน้า ตัวแทนค้าปลีกสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิด คนไทยผู้เป็นหุ้นส่วนเป็นผู้สนับสนุน
โทษปรับนิติบุคคลจะกักขังแทนเงินไม่ได้ จึงจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา29 เท่านั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด จำเลยที่ 1 ซึ่งประกอบธุรกิจนายหน้าหรือตัวแทนค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับเครื่องยนต์ฯ มีความผิดตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281 ข้อ 4, 26 จำเลยที่ 2 เป็นผู้สนับสนุนตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ปรับจำเลยที่ 1 30,000 บาท จำเลยที่ 2 20,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ฟังได้ว่านายลีคุง แซ่เบ๊ ยังเป็นหุ้นส่วนอยู่ ในห้างจำเลยที่ 1 เมื่อประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281 มีผลใช้บังคับในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2515 ห้างจำเลยที่ 1 จึงเป็นคนต่างด้าวตาม ข้อ 3(2) แห่งประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 281 และฟังได้ต่อไปว่าห้างจำเลยที่ 1 ประกอบธุรกิจตามบัญชีท้ายประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าว โดยมิได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมทะเบียนการค้า และไม่มีพระราชกฤษฎีกาอนุญาตให้กระทำได้ การประกอบธุรกิจของห้างจำเลยที่ 1 จึงเป็นการกระทำผิดตามฟ้อง จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดดำเนินธุรกิจนี้ จึงเป็นผู้กระทำผิดร่วมด้วย แต่การประกอบธุรกิจดังฟ้องเป็นความผิดต่อเมื่อคนต่างด้านประกอบโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธีบดีกรมทะเบียนการค้า และไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้กระทำได้ แต่จำเลยที่ 2 เป็นคนสัญชาติไทย แม้จะร่วมกระทำผิดก็มีความผิดเพียงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น อนึ่ง คดีนี้ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยเพียงปรับสถานเดียว มิได้สั่งให้จำเลยเลิกประกอบธุรกิจด้วย แต่โจทก์ก็มิได้อุทธรณ์ในข้อนี้จึงถือว่าเป็นยุติ
พิพากษากลับ เป็นให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่เฉพาะจำเลยที่ 1 ผู้เป็นนิติบุคคลจะกักขังแทนเงินค่าปรับไม่ได้จึงให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 แต่ประการเดียว"
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการกรมอัยการ จำเลย - ห้างหุ้นส่วนจำกัดบวรแมชีนเนอรี่ กับพวก
ชื่อองค์คณะ สนิท บริรักษ์ สัญชัย สัจจวานิช แผ้ว ศิวะบวร
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan