สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2518

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2518

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 57 (2), 58

โจทก์ยื่นฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกจากตึกรายพิพาท จำเลยมิได้ยื่นคำให้การและศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้วภริยา จำเลยจะร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมโดยอ้างว่ามีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(2) หาได้ไม่ เพราะการร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความดังกล่าวนี้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 58 บัญญัติว่าผู้ร้องจะใช้สิทธิอย่างอื่นนอกจากสิทธิที่มีอยู่แก่คู่ความฝ่ายซึ่งตนเข้าร่วมหรือในทางที่ขัดกับสิทธิของจำเลยเดิมไม่ได้

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าตึกแถวโจทก์ บัดนี้สัญญาเช่าสิ้นอายุแล้วโจทก์ได้มีหนังสือบอกเลิกการเช่ากับจำเลย แต่จำเลยและบริวารยังไม่ยอมออกจากตึกรายพิพาท จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวารขนย้ายออกจากตึกรายพิพาทและให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 2,000 บาท นับจากวันฟ้องจนกว่าจะขนย้ายออกไป

นางยุพา ธัมวราภรณ์ ร้องสอดเข้ามาว่าผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลย ได้อยู่อาศัยในตึกรายพิพาทตลอดมาเป็นผู้มีส่วนได้เสียในคดีนี้ตามกฎหมาย เนื่องจากจำเลยเดินทางไปต่างจังหวัดตั้งแต่ก่อนถูกฟ้อง ผู้ร้องพยายามติดตามจำเลยแต่ไม่พบตัว เกรงว่ากำหนดเวลายื่นคำให้การตามกฎหมายจะหมดเสียก่อนและจำเลยไม่ได้ยื่นคำให้การสู้คดี ซึ่งหากศาลดำเนินกระบวนพิจารณาไปและมีคำพิพากษาประการใดย่อมกระทบกระเทือนผู้ร้องได้ จึงขอเข้าเป็นจำเลยร่วมในคดีนี้ตามกฎหมาย

ศาลชั้นต้นสั่งว่า ผู้ร้องมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(2)ให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ผู้ร้องจะเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยอ้างว่ามีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีและขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วมดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 52(2) ก็ตาม การร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความดังกล่าวนี้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 58 บัญญัติว่า ผู้ร้องจะใช้สิทธิอย่างอื่นนอกจากสิทธิที่มีอยู่แก่คู่ความฝ่าย ซึ่งตนเข้าร่วมหรือในทางที่ขัดกับสิทธิของจำเลยเดิมไม่ได้ คดีนี้ปรากฏชัดว่าจำเลยมิได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดี และศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วผู้ร้องจะทราบได้อย่างไรว่าจำเลยจะให้การต่อสู้คดีอย่างไรทั้งการร้องสอดของผู้ร้องในกรณีเช่นนี้ก็เป็นเรื่องที่อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะอนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความร่วมหรือไม่ เหตุดังกล่าวการที่ศาลล่างพิพากษายกคำร้องของผู้ร้องนั้น จึงต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำเลย - นายประสงค์ ธัมวราภรณ์ จำเลย - ผู้ร้องสอด จำเลย - นางยุพา ธัมวราภรณ์

ชื่อองค์คณะ ปรีชา สุมาวงศ์ สงวน สิทธิไชย อุดม จาละ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE