คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2539

คำสั่งคำร้องที่ 359

คำสั่งคำร้องที่ 359/2539

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 15, 220

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในคดีซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้องโจทก์เป็นการห้ามฎีกาทั้งในปัญหา ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และบทบัญญัติตามมาตรานี้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาบัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้วไม่อาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 242(3)(4),243(1)(3)(ก)(ข) และมาตรา 247 มาใช้บังคับโดย อนุโลมโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ได้อีก

คำสั่งคำร้องที่ 2017

คำสั่งคำร้องที่ 2017/2539

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 219 ตรี

ฎีกาที่จำเลยที่ว่าผู้เสียหายแถลงต่อหน้าศาลว่าไม่ติดใจเอาความกับจำเลยกับยืนยันว่าเสียหายกับจำเลยเป็นคู่รักกันเป็นการบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดทางหนึ่งแต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยไม่พยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดนั้นจึงเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดไปจากพยานหลักฐานในสำนวนเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย

คำสั่งคำร้องที่ 975

คำสั่งคำร้องที่ 975/2539

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 221

จำเลยยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ภาค 2 อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง พร้อมกับยื่นฎีกาภายในกำหนดอายุฎีกาโดยมิได้เจาะจงให้ผู้พิพากษาคนใดคนหนึ่งสั่งโดยเฉพาะแม้ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนจะมีคำสั่งไม่อนุญาต ให้จำเลยฎีกาก็ตามก็ยังต้องส่งคำร้องดังกล่าวไปให้ ผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิจารณาสั่งด้วย ส่วนกรณีที่จำเลยต้องการให้อัยการสูงสุด ลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาด้วยนั้นเป็นเรื่องที่จำเลย จะต้องไปร้องขอด้วยตนเอง ศาลไม่มีหน้าที่ดำเนินการให้

คำสั่งคำร้องที่ 300

คำสั่งคำร้องที่ 300/2539

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 234

ตามหนังสือมอบอำนาจของ พ. ที่มอบให้จำเลยทำหนังสือสัญญาค้ำประกันทุเลาการบังคับให้ชั้นอุทธรณ์ เป็นการนำสมุดเงินฝากมาเป็นหลักประกันในชั้นทุเลา การบังคับตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นในชั้นอุทธรณ์ เท่านั้น และเมื่อจำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับ ฎีกาก็ไม่ปรากฏว่า พ. ได้ยินยอมให้จำเลยนำสมุดเงินฝากดังกล่าวมาวางศาลเพื่อเป็นประกัน การชำระเงินตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงถือไม่ได้ว่า จำเลยได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกัน ให้ไว้ต่อศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 ศาลฎีกามีคำสั่ง ยกคำร้องอุทธรณ์ คำสั่งที่ไม่รับฎีกาของจำเลย

คำสั่งคำร้องที่ 172

คำสั่งคำร้องที่ 172/2539

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 234

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 บัญญัติให้เป็นหน้าที่ ของผู้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาที่จะต้องนำ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมา ชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายใน กำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่งไม่รับฎีกา มิได้บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของศาลที่จะต้องกำหนดเวลา ให้ผู้ฎีกาปฏิบัติ ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเวลา ให้จำเลยนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกัน ให้ไว้ต่อศาล และที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์ คำสั่งที่ไม่รับฎีกาของจำเลย จึงไม่มีข้อผิดพลาดหรือผิดหลง ไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนคำสั่งเดิม

«
ติดต่อเราทาง LINE